ไม่สนวงจรปิด! กลุ่มคนร้ายในคราบนักเรียน-นักศึกษา ใช้มีดดาบไล่ฟัน ม.3 ได้รับบาดเจ็บ ปาระเบิดซ้ำ ป.1 ถูกสะเก็ดระเบิด
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2565 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ .สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้าย ใช้มีดดาบไล่ฟัน นักเรียน รร.เบญจมฯ 2 ชั้น ม.3 บริเวณลานวัดดอนทอง หน้า รร.วัดดอนทอง หมู่ 12 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และยังได้ปาระเบิดปิงปอง ใส่นักเรียนคู่อริดังกล่าวเสียงดังสนั่น แต่พลาดไปโดนรถกระบะของผู้ปกครองที่มารอรับบุตรเสียหาย กระจกฝั่งประตูคนนั่งแตก มีเด็กนักเรียน ป.1 ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บบริเวณใบหู ส่วนเด็กนักเรียนกลุ่มที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียน ม.3 ได้รับบาดเจ็บจากการถูกมีดไล่ฟันที่บริเวณแขนมีบาดแผลลึกถึงกระดูก ครูรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาลรวมแพทย์ จากนั้นทางผู้ปกครองจึงได้นำตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลพุทธโสธร
จากการสอบถาม นายสมควร เสือเหลือง ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ตอนแรกตนเห็นเด็กนักเรียนรวมกลุ่มกันอยู่ 2 กลุ่มๆ ละประมาณ 6-7 คน จากนั้นมีเสียงระเบิดดังสนั่นบริเวณพื้นที่ลานจอดรถของวัด ซึ่งในช่วงเย็นจะเป็นสถานที่จอดรถสำหรับผู้ปกครองมารอรับบุตรหลาน โดยมีเด็กเล็กเด็กน้อยในบริเวณจำนวนมากในช่วงที่กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุ จากนั้นเมื่อเสียงระเบิดสิ้นสุดลงนั้นได้เห็นกลุ่มเด็กวิ่งถือมีดไล่ฟันกัน และวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง โดยตนเป็นห่วงเด็กเล็กที่ไม่รู้เรื่องราวและโดนลูกหลงจากการก่อเหตุ ทางผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่าในพื้นที่นี้มีนักเรียนขาสั้น ก่อเหตุบ่อยไหมโดยส่วนมากจะเป็นแต่กลุ่มนักเรียนช่างต่างสถาบันที่จะทะเลาะวิวาทกัน นายสมควรกล่าวว่า มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันตลอดเป็นประจำ ตนจึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยประจำหลังโรงเรียนเลิกเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่เริ่มจะหนักขึ้นจากแต่ก่อนจากที่แค่ชกต่อยกัน ตอนนี้มีการใช้ระเบิดปิงปองและอาวุธมีดฟันกันจนได้รับบาดเจ็บ
นักเรียนในพื้นที่ยังให้ข้อมูลต่อว่า วันที่ 23 พ.ย. 2565 นักเรียนโรงเรียนดังกล่าว ได้มีเรื่องทะเลาะกันภายในโรงเรียน ระหว่างชั้น ม.3 กับ ม.3 ด้วยกัน ไม่ได้เป็นนักเรียนต่างสถาบันซึ่งตนทราบเพราะเห็นท้าทายกันอยู่ในโรงเรียนและมีเรื่องชกต่อยกันมาตั้งแต่เมื่อวาน จนวันนี้ได้มีการนัดเคลียร์เรื่องแต่เมื่อถึงเวลานัดพบก็ยังไม่ทันเคลียร์ อีกฝ่ายได้พบและเข้าทำร้ายทันที ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. พ.ต.อ.พิทูรย์ พัฒนชัย ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพร้อมทั้งเข้าพบ ผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อหารือ สอบสวนถึงต้นสายปลายเหตุจากเหตุการณ์ทั้งหมด และจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมารับผิดตามกฎหมายต่อไป