ทนายษิทรา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังจากปล่อยคลิปกล้องวงจรปิด "น้องเอ็ม" ถูกตบกลางห้าง
ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เมื่อตอน 2 ทุ่มที่ผ่านมา ว่าจากคลิปที่เปิดเผยไป ตบแรงหรือเปล่า ต้องถามคนถูกกระทำ แต่น้องผู้เสียหาย บอกว่าตบแรง และมีคนไทยเห็นเหตุการณ์เยอะ หากน้องผู้เสียหายกลับมาถึงไทยแล้วจะแจ้งความกับตำรวจไทยด้วย
ส่วนการพูดคุยในคลิปที่เห็นยกถุงที่ถือขึ้นมา น้องเล่าว่า คุณม้าบอกจะไปกินปู แต่น้องบอกเดินมา 3 ชั่วโมงแล้ว ขอไม่ไป ซึ่งคุณม้าก็ใช้มือตบ ก่อนออกมาด่าข้างนอก ซึ่งน้องที่ถูกกระทำ บอกว่าอายมาก สุดท้ายก็ต้องไปกินปูด้วย ทั้งที่ไม่อยากไป เพราะกลัวว่าหากผิดใจกันจะไม่ได้ทำศัลยกรรม แต่หลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ น้องจึงบอกครอบครัวว่ายอมรับไม่ได้จริง ๆ จึงมาปรึกษาทนายตั้ม
ทนายตั้ม ยืนยันว่าน้องกับคุณม้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่มีเรื่องชู้สาว เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี น้องผู้เสียหายออกเอง ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม แม้กระทั่งค่าอาหารที่ไปกินกับคุณม้า
ส่วนที่คุณม้าบอกว่าเคลียร์จบแล้ว ทนายตั้มบอกว่าต้องรอถามน้องผู้เสียหายที่จะกลับมาวันที่ 30 พ.ย. นี้ ตอนนี้สภาพจิตใจน้องยังไม่โอเค ขณะที่ประเด็นที่ว่าน้องมาปรึกษาเพื่อเป็นข่าวเพราะอยากดัง ทนายตั้มยืนยันว่าไม่ใช่ น้องไม่ได้อยากให้เปิดเผยชื่อหรืออะไรเลย บอกแค่ชื่อ "เอ็ม" เท่านั้น
ขณะให้สัมภาษณ์วันนี้ ทนายตั้มใช้โอกาสที่ได้จัดงานวันเกิดให้ภรรยาพอดี จึงมีทนายความคนอื่นมาร่วมงานด้วย อย่างทนายรณรงค์ ทนายเจมส์ ทนายรัชพล และทนายเดชา
ซึ่ง ทนายเดชา บอกว่า ในทางกฎหมาย คลิปวิดีโอคือพยานหลักฐานอย่างดีฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถอ้างเจตนาว่าแค่ล้อเล่นได้ คดีแบบนี้มองที่พฤติกรรม ว่าเจตนาไหม ซึ่งคลิปหลักฐานยืนยันได้ชัดเจนว่าเจตนา และการที่บังคับให้น้องผู้เสียหายไปกินปูอาจ จะมีความผิดฐานจำกัดเสรีภาพได้อีกด้วยเพราะน้องผู้เสียหายไม่มีทางเลือกหากไม่ไปกินอ่ะจำไม่ได้ทำศัลยกรรม
สำหรับในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ น้องผู้เสียหายจะไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่แจ้งความไว้กับตำรวจกรุงโซล ประเทศเกาหลี หากการดำเนินคดีเสร็จ และลงโทษผู้กระทำความผิดแล้ว ก็อาจจะพิจารณาการดำเนินคดีที่ไทยอีกครั้ง