สึกแล้ว! พระพ่นไฟรักษาโรค พร้อมแต่งตั้งพระครูโกศลสิกขกิจรักษาการเจ้าอาวาสแทน ด้านอดีตเจ้าอาวาสเผยพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนในพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด
วันที่ 28 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นวัดที่เคยมีข่าวโด่งดังว่า พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อสมเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ได้ใช้วิธีการพ่นไฟไล่ผีและรักษาโรคต่าง ๆ เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่าโดนคุณไสย มนตร์ดำ ไปเข้ารับการรักษาจากทางแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว แต่ก็ไม่หายจึงเดินทางมาให้หลวงพ่อเพชรช่วยรักษา โดยวิธีการพ่นไฟ ซึ่งหลวงพ่อเพชรอ้างว่าเป็นวิชาที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงปู่สรวง ครูบาอาจารย์ พระเกจิอาจารย์ ที่นับถือและศึกษาเล่าเรียนวิชามาเป็นผู้ถ่ายทอดประสาทวิชาให้ เพื่อเอาไว้ใช้ช่วยรักษาคนที่ถูกของไสยศาสตร์มนตร์ดำโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการจะให้ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษานอนหงายบนแคร่ ก่อนจะใช้แป้งมันสิงคโปร์ และแป้งข้าวเหนียวผสมกัน นำเอาไปนวดบนหน้าท้องของผู้ป่วยทั้งหญิงและชาย พร้อมท่องคาถาเสมือนให้แป้งดังกล่าวทำหน้าที่ดูดคุณไสยมนตร์ดำ หรือสิ่งไม่ดีที่อยู่ในร่างกายของผู้ป่วย เสมือนเป็นการใช้ไฟปัดเป่าภูตผีวิญญาณร้ายที่สิงสถิตอยู่ในร่างกายของคน ให้หลุดพ้นออกจากร่างกายของผู้ป่วย ต่อมามีประชาชนร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม ผิดหลักของพระพุทธศาสนา เพราะพระไม่สมควรประกอบพิธีกรรมที่ถูกเนื้อต้องตัวญาติโยม ซึ่งต่อมา พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) พร้อมด้วย พระครูใบฏีกาพรชัย จันทโก เจ้าคณะตำบลไพรพัฒนาและตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ โดยคณะสงฆ์ อ.ภูสิงห์ ได้สั่งให้หลวงพ่อเพชร หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว เนื่องจากว่าหลวงปู่สรวงท่านไม่เคยสอนวิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการแบบนี้แต่อย่างใด ซึ่งหลวงพ่อเพชรยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของคณะสงฆ์ โดยการหยุดพ่นไฟรักษาโรคต่าง ๆ แล้ว
ล่าสุดเมื่อวันนี้ที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมี จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีมอบตราตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จากนั้นเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้ประกอบพิธีมอบตราตั้งให้ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร และมอบตราตั้งคณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรวัดป่าพลาญเพชร รวมจำนวน 25 คน โดยมีพระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ (ธ.) พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ธ.) เจ้าคณะอำเภอขุนหาญ (ธ.) เจ้าคณะอำเภอเบญจลักษ์ (ธ.) พร้อมด้วย คณะสงฆ์ธรรมยุต ชาวบ้านโคกแดงและหมู่บ้านใกล้เคียง มาร่วมพิธีครั้งนี้จำนวนมาก
พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) กล่าวว่า ด้วยพระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้น จึงทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง อาศัยอำนาจตามความในข้อที่ 27 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535) จึงแต่งตั้งให้ พระครูโกสลสิกขกิจ ฉายา วายาโม (อาจหาญ)อายุ 64 พรรษา 37 วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.ตรี วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันมีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (บ้านโคกแดง) ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ที่ 20/2565 เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเข้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร แต่งตั้ง ณ วันที่ 12 พ.ย.65 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.65 เป็นต้นไป
พระครูโกศลสิกขกิจหรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา และรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ซึ่งเป็นศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นพระที่มีความกตัญญูเป็นเลิศ ได้กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร รูปเดิม ได้ลาสิกขาแล้ว พระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) จึงได้มีบัญชาแต่งตั้งให้อาตมาภาพมารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ซึ่งอาตมาภาพได้แต่งตั้งคณะกรรมการวัด จำนวน 23 คน มีหน้าที่ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์และช่วยเหลือกิจการของวัด และไวยาวัจกร จำนวน 2 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือวัดในการดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดตามที่เจ้าอาวาสมอบหมาย ซึ่งคณะกรรมการวัดที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านโคกแดง โดยให้กรรมการและไวยาวัจกรร่วมกันทำการตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ทุกอย่างของวัด ตู้รับบริจาคเงินต่าง ๆ นำมาจัดทำเป็นบัญชีให้เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการวัดป่าพลาญเพชร เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติมรวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.65 ที่ผ่านมานั้น นับว่าเป็นการปิดตำนานพระพ่นไฟรักษาโรคแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย เนื่องจากว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยสอนพระสงฆ์ให้ใช้วิธีการแบบนี้ในพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด