ย้อนเส้นทางการเมือง "สุชาติ ชมกลิ่น" ชีวิตไม่ธรรมดาจากครอบครัวจับกัง สู่การเป็นหนึ่งในดวงใจ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"

หากพูดถึงชื่อ "สุชาติ ชมกลิ่น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในรัฐบาล เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ออกตัวชัดเจนมาตลอดว่ายืนอยู่ข้าง ประดุจดั่งขุนพลคู่กายผู้พิษักษ์ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุด (28 พ.ย. 65) ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคและ ผอ. พรรคพลังประชารัฐ เพื่อตามไปอยู่กับ "ลุงตู่" ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

 

สำหรับเส้นทางชีวิตและเส้นทางการเมืองของ "สุชาติ" หรือ" เสี่ยเฮ้ง" เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม 2517 ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตั้งแต่ต้นเขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน “พ่อ” มีอาชีพรับจ้าง-จับกัง พ่อต้องไปทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และ“แม่” ที่มีอาชีพ “แม่ค้าขายขนมครก” อยู่หน้าตลาดหนองมน จังหวัดชลบุรี

 

ส่วนเจ้าตัวก็เคยรับจ้างแบกน้ำตาลและข้าวสารอยู่ท่าเรืออ่าวไทย 7 ปี ชีวิตลำบาก รับเหมาเป็นกุลี ทำเรือสินค้าส่งออกข้าว น้ำตาลอยู่เกาะสีชัง

 

สมัยเรียนจบบัญชีใหม่ๆ เป็นเซลส์ขายบ้าน เงินเดือน 5,500 บาท อยู่ 1 ปี ทำงานธนาคาร 1 ปี ออกมารับเหมา 7 ปี หลังจากนั้นมาทำหมู่บ้านจัดสรรขายเองในปี2549 ยับขยายไปจนผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ในชลบุรี ก่อนจะนำพาบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์

 

ชีวิตของ "สุชาติ" หันเหเข้าสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัวจาก "กำนันเป๊าะ" สมชาย คุณปลื้ม ลงสนามแรกด้วยการสมัครการเมืองท้องถิ่นในวัยเพียง 26 ปี เจ้าตัวได้ตำแหน่ง “ส.ท แสนสุข” ตามมาด้วย "ส.จ.อ่างศิลา" เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนที่ทำงานได้ทุกรูปแบบ และที่สำคัญเป็นคนรวยเพื่อนจนเป็นที่เลื่องลือในเมืองชล

 

ต่อมาในปี 2554 เขาได้ก้าวเข้าสู่สนามการเมืองใหญ่ระดับชาติเป็นส.ส.สมัยแรกภายใต้สังกัด "พรรคพลังชล" และได้ชัยชนะได้รับเลือกเป็นส.ส.ในปี 2557 แต่เกิดวิกฤติการเมืองการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ

 

ปี 2562 "สุชาติ" ย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 ไม่เพียงเท่านั้น ยังพาเพื่อน ส.ส.ชลบุรีเข้ามาเพิ่มอีก 2 คนอีกด้วย

 

นอกจากนี้ "สุชาติ" โพสต์สวนดราม่ากรณี “สนธยา คุณปลื้ม” ออกมาโพสต์กล่าวหาลูกน้องเก่าเป็นคนทรยศ สร้างอาณาจักรในพรรคพลังประชารัฐ ข้ามหน้าจัดตัวผู้สมัครเลือกตั้งในจังหวัดชลบุรี โดยสุชาติ ระบุว่าหมาไม่เคยทิ้งเจ้าของ มีแต่เจ้าของเอาหมาไปทิ้งปล่อยวัด เล่านิทานเหน็บ "ขุนศึกคู่กาย กับแม่ทัพอัลไซเมอร์

 


ในช่วงแรกของการจัดตั้งรัฐบาลครม.ประยุทธ์ 1 มีกระแสข่าวว่ส "สุชาติ" จะได้เป็น
รัฐมนตรีว่าการแรงงาน แต่ต้องอกหักจากการเกิดปัญหาแย่งชิงตำแหน่งจนเขาต้องยอมถอย โดยมีสัญญาใจว่าในการปรับครม. ประยุทธ์ 2/2 จะได้ขึ้นมาทำงานระดับชาติ และก็เป็นเช่นนั้นเจ้าตัวได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี ในวัยเพียง 46 ปี

 

สำหรับใน "พรรคพลังประชารัฐ" สุชาติถือเป็นที่ไว้วางใจของ "พล.อ.ประวิตร" ได้มอบหมายภารกิจสำคัญ คือประธานส.ส.พปชร. และผอ.พรรคพลังประชารัฐ มีบทบาทสำคัญแม้ศึกภายในพรรคจะถูกแบ่งออกเป็นหลายก๊วน รวมทั้งก๊วนใหญ่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาอย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ในขณะนั้น โดยเฉพาะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงปลายปี 2564 ที่พุ่งเป้าไปที่ "ลุงตู่" ที่มีความพยายามในการโหวตล้มนายกฯ สุชาติ ก็ถือเป็นอีกขุนศึกที่ออกมาเดินเกมปกป้อง จนผ่านวิฤตไปได้ จนนำไปสู่การเช็กบิลปลด 2 รัฐมนตรีฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน

 

ไม่เพียงเท่านี้ "สุชาติ" ยังมีบทบาทสำคัญหลายครั้งในการออกตัวปกป้อง "ลุงตู่" ในทุกครั้งและประกาศชัดเจนหากนายกฯไปไหน ตนเองก็ต้องไปที่นั่น เพราะยึดที่ตัวนายกฯ เช่นดังวันที่ "สุชาติ" ได้บอกลาพรรคพลังประชารัฐ ตามไปอยู่กับเป็นขุนศึกคู่กายเพื่อเตรียมออกศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งผลลัพธืจะเป็นอย่างไรต้องให้เสียงประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ให้คำตอบเท่านั้น