"บิ๊กโจ๊ก" ลั่นไม่มีมวยล้มต้มคนดู คดีทุนจีน เหตุไร้ผลประโยชน์เกี่ยวข้อง แจงเข้าตึกไทยคู่ฟ้ามารายงานความคืบหน้าค้ามนุษย์เท่านั้น
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ว่าวันนี้ไม่ได้มาพบหรือรายงานนายกรัฐมนตรี เพียงแต่มาประสานเจ้าหน้าที่เรื่องคดีการค้ามนุษย์ เพราะเป็นเรื่องที่สหรัฐอเมริกาชมเชย พอใจประเทศไทยในเรื่องปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยวันนี้ไทยเป็นเทียร์ 2 ก็ต้องเร่งรัดปราบปราม การใช้กฎหมายในภาพรวมซึ่งต้องเดินหน้าต่อ รวมไปถึงการป้องกันและการดูแลเหยื่อ
ส่วนเรื่องความคืบหน้าทุนจีนตนได้รายงานพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้ว ซึ่งผบ.ตร.จะรายงานนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมาว่าให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่วันนี้ยึดหลักตามกฎหมาย ถึงใครก็ว่าไปตามนั้น หากไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ต้องเห็นใจผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะวันนี้เราใช้พนักงานสอบสวนเยอะมาก จึงต้องใช้เวลากับคดีนี้เยอะ ซึ่งตนและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องก็พยายามเร่งรัดคดีนี้ ซึ่งจะพยายามให้จบโดยเร็ว
ส่วนคดีจะเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง แต่วันนี้ตำรวจพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมาวิเคราะห์ ซึ่งจะมาวิเคาระห์ร่วมกับ ป.ป.ง.//ป.ป.ส. หลังจากนั้นหากเชื่อมโยงถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ไม่ถึง พร้อมยืนยันว่าจะใช้เวลาในการแยกแยะอีกไม่นาน เพราะขณะนี้ก็เร่งการสืบสวนไปเยอะแล้วถึง 90% โดยวันนี้ฝ่ายสืบสวนเร่งทำงานทุกวัน เพราะตนต้องรีบจบคดีนี้เพื่อไปทำคดีต่ออีก แต่ต้องทำโดยรอบคอบ เพราะบุคคลเหล่านี้เขามีทนายความ นักกฎหมายเก่งๆ และมีเงินเยอะ ซึ่งเรากำลังสู้กับคนที่มีฐานะการเงินสูง ฉะนั้นจึงต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรากลัว แต่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม
เมื่อถามว่าวันนี้ยังมีการกระทำของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวอีกหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เชื่อว่า วันนี้ภายในประเทศไทยกลุ่มดังกล่าวได้หนีออกไปเยอะแล้ว จากการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการเช่นนี้ เพราะกลุ่มนี้หลบหนีจากจีนมากัมพูชา และเมื่อกัมพูชากวาดล้างหนักจึงมาประเทศไทย และไปสปป.ลาว จากที่ตนได้ไปคุยกับ ผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อวานนี้ก็เชื่อว่า คน 2 สัญชาติลักษณะนี้จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ฉะนั้นสิ่งสำคัญต่อไปเราต้องมาวาง มาตรการเข้มงวด โดยเริ่มจากการตรวจคนเข้าเมือง และการให้วีซ่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตม. หรือบุคคลใดทำผิดก็เตรียมถูกดำเนินคดี
ส่วนการที่กลุ่มจีนมีทั้งอำนาจและเงินจำนวนมากจะไม่กลายเป็นมวยล้มใช่หรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวย้ำหลายรอบ ว่า ไม่มี ถ้าตนทำไม่มีมวยล้มแน่ เพราะถ้าไม่มีผลประโยชน์ก็จะตัดสินใจง่าย เรื่องนี้ตนทำสบายใจมาก เพราะทำอย่างตรงไปตรงมา แต่อาจจะเหนื่อย เครียด เอกสารเยอะ “เราเป็นตำรวจ มันต้องทำ เมื่อไหร่ที่ไม่มีผลประโยชน์มันตัดสินใจง่าย ความจริงรับรองได้ว่าเรื่องนี้มีไม่มีมวยล้ม”