บิ๊กโจ๊กสั่งตามตัว! อดีตสารวัตรซี้ตู้ห่าวรู้เส้นทางการเงิน หลังตำรวจติดใจยึดเงินสดได้แค่ 1 แสนเดียว ส่วนเครื่องบินตู้ห่าว กัปตันร่วมมือเปิดโปงข้อมูล

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พร้อมด้วย ตัวแทนเจ้าพนักงานอัยการ ร่วมประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่รับผิดชอบการสอบสวนคดีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆที่ตรวจค้นได้ยึดได้จากหลายจุดมาเข้าสู่สำนวนการสอบสวนคดี เพื่อกำหนดแนวทางการสอบปากคำและไล่เส้นทางการเงินเส้นทางทางโทรศัพท์ ว่าจะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดอื่นอีกหรือไม่

ส่วนทรัพย์สิน ที่ยึดได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. เพื่อใช้อำนาจดำเนินคดีฐานสมคบและบังคับใช้กฏหมายการฟอกเงิน ดังนั้น คาดว่าจะเร่งสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้พนักงานอัยการ ได้ในเร็ววันนี้

ขณะที่ในกลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ 102 คนแบ่งเป็นการดำเนินคดี ได้ดังนี้ คือความผิดฐานสมคบจำหน่ายยาเสพติด เฮโรอีน และยาบ้า/ ความผิดฐาน นอมินี ถือครองทรัพย์สินแทนบุคคลต่างชาติ และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการสวมบัตรประชาชน

ส่วนความผิดที่นายโทนี่ ตำรวจดำเนินคดี, ฐานความผิดเป็นนอมินี ให้คนอื่นถือครองทรัพย์สินแทน ส่วนความผิดอื่นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ส่วนการขยายผลความเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายชัยณัฐร์กรณ์ ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ตำรวจออกหมายเรียกเพิ่มเติม 3 คนคือ พัชรินทร์ ที่ยังหลบหนีในประเทศไทย  /สุชาดา และ อดีตนายตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 คนตำรวจมีข้อมูลว่าร่วมกันเป็นกรรมการบริษัทที่มีนายตู้ห่าวเป็นประธาน ดังนั้นหากสามารถควบคุมตัวทั้ง 3 คนได้เชื่อว่าจะพบทรัพย์สินที่เป็นเงินสดอีกจำนวนมาก เนื่องจากตำรวจ ตั้งข้อสังเกตว่าเงินสดที่ยึดได้จากนายตู้ห่าว มีเพียงแค่หลักแสนบาท  จึงเป็นไปไม่ได้ที่นักธุรกิจระดับนี้ จะมีเงินสดอยู่ในบัญชีแค่ 100,000 บาท

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานที่เก็บได้จากเครื่องบินในอำเภอบ่อฝ้ายจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเกี่ยวกับยาเสพติด ดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝง เนื่องจากขณะตรวจค้นสุนัขตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดมสารเสพติด มีพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจน

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนสอบปากคำกัปตัน ที่มีชื่อเป็นผู้ขับเครื่องบินดังกล่าวแล้ว โดยกัปตันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เปิดเผยข้อมูลของบุคคลที่ใช้เครื่องบิน ซึ่งเป็นไปตามที่มีเอกสารหลักฐานยืนยันไว้ชัดเจนก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนของรายละเอียดว่ามีการใช้สารเสพติดบนเครื่องบินหรือไม่ กัปตันไม่ได้ยืนยันในส่วนนี้