รวบแล้ว! "มายด์ วรัญรภัสส์" เน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกลงทุนทองคำเสียหาย 200 ล้าน เจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ลั่นเป็นผู้เสียหายเช่นกัน
วันที่ 3 ธ.ค.65 สืบเนื่องจากวานนี้ (2 ธ.ค.65) เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 รอง หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์ ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 สืบสวน
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2561 มายด์กับพวกได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเพื่อชักชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยมีการกล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอด ๆ ซึ่งช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง หลังจากนั้นเมื่อเหล่าผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง
โดยในปัจจุบัน มายด์ ได้กลายมาเป็น "เน็ตไอดอลชื่อดัง" ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.วรัญรภัสส์ ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" และได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้จับกุมตัวตามหมายจับ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าห้องพักเลขที่ 174/17 The Tree interchange Condo ถนนประชาราษฏร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพ
ในชั้นจับกุม น.ส.วรัญรภัสส์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า "ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง และเป็นบุคคลมีเชื่อเสียงในโลกโซเชียล โดยในตอนเกิดเหตุช่วงปี 2561 นั้นตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน โดยตนเองมีหน้าที่ชักชวนให้เหล่าผู้เสียหายมาลงทุน และยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนจะโอนไปให้กับ "หัวหน้าขบวนการ" โดยตนเองจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี โดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการชดใช้เงินให้กับเหล่าผู้เสียหายยอมติดคุก"
ภายหลังจากที่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. แล้วจะมีการสอบสวนขยายผลต่อไป