"สหายแสง" เอาจริง จ่อแจ้งความ"ทนายตั้ม-ไฮโซสาว" หลังพาดพิงปมลวง 25 ล้าน แถมปล่อยข่าวลูกสาวเป็นกิ๊กคนอื่น ทำเสื่อมเสียยกตระกูล เสียโอกาสได้ลูกเขย เชื่อหวังผลการเมืองแน่นอน

นายศุภชัย โพธิ์สุ  ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย  และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงข่าวชี้แจงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวหาว่าอดีตผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.จังหวัดหนึ่ง และเป็นสามีแบบไม่จดทะเบียนของนายก อบจ. คนดังกล่าวด้วย โดยกล่าวหาว่า  ลวงเงินจำนวน 25 ล้านบาทจากนักธุรกิจสาวไฮโซเพื่อหลอกช่วยเคลียร์คดี

 

ซึ่งนายศุภชัย​ ยอมรับว่า เคยรู้จักกับผู้ช่วยฯ คนดังกล่าวจริง หลังจากได้เข้ามาขอช่วยงานในช่วงที่ตนได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี ตนจึงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ และได้มอบหมายให้มาช่วยงานลูกสาว หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.นครพนม  แต่หลังจากทำงานได้ 2-3 เดือน บุคคลดังกล่าวได้ลาออกไป โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสมกับงาน และไม่ได้ติดต่อหรือเกี่ยวข้องกันอีก 

 

"ที่ผ่านมา ผมรู้สึกชื่นชมทนายตั้มมาโดยตลอด ที่ให้ความช่วยเหลือคน แต่พอมาเจอกับตัวเอง ทำให้รู้สึกว่า ทนายตั้มรับข้อมูลด้านเดียว และหากเรื่องใดที่เป็นการเมืองก็จะพยายามเข้ามายุ่งและลากให้เป็นประเด็น ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่า หากมีการต้มตุ๋นกันเกิดขึ้น เหตุใดจึงไม่ไปฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งหากกระทำผิดก็ไปสู้กัน  แต่สิ่งที่ผมรู้สึกไม่สบายใจ คือการเอาเรื่องลูกสาวมาประกาศต่อสาธารณะว่าเป็นภรรยาที่ไม่จดทะเบียน ทั้งที่ลูกผมเป็นโสด และแม้ว่ากินข้าวกับผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยกินตามลำพัง จึงถือว่าเป็นการทำให้ลูกสาวผม และตัวผม ตลอดจนครอบครัวได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียเกียรติยศ  เพราะลูกสาวผมมีหน้ามีตาในสังคม ไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย และผมก็ยังหวังว่าจะได้ลูกเขย จึงจำเป็นที่จะฟ้องดำเนินคดีกับทนายตั้มและผู้ให้ข้อมูลภายในสัปดาห์หน้าโดยไม่มีการยอมความ"

 

ส่วนที่มีการพาดพิงนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ของคนภูมิใจไทย นั้น ส่วนตัวยังไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ มีเพียงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ที่ได้โทรศัพท์สอบถามและให้ตนชี้แจงไปตามความจริง

 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หวังผลทางการเมืองแน่นอนเพราะมาเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยจะมาเปิดตัว ส.ส. ในจังหวัดนครพนม