นายดาบ ตชด.ภาค 2 คลุ้มคลั่งใช้ปืนพกสั้น 9 มม. ยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตในป้อมยามบ้านพัก ตชด.ภาค2 ก่อนจะยึดเอาอาวุธปืน M16 ภายในป้อมเดินไปมาในภายในบ้านพัก ล่าสุดเพื่อนร่วมงานเผยผู้ตายและผู้ก่อเหตุเป็นคนขี้เล่น ก่อนจะก่อเหตุนั่งยังดื่มกาแฟกับผู้ตายอยู่ในป้อม หันหลังให้แป๊ปเดียวก็เกิดเหตุ
จากเหตุการณ์ที่บ้านพัก ตชด.ภาค 2 บ้านหนองไฮ ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ต้องใช้ยุทธวิธีในการยิงสกัดผู้ก่อเหตุ คือ ด.ต.ชูชาติ อายุ 49 ปี สังกัด ตชด.ภาค 2 หลังจากที่ใช้อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ยิงเพื่อนร่วมงานด.ต.พิชิต อายุ 44 ปี สังกัด ตชด.ภาค 2 เสียชีวิต ภายในป้อมยามบ้านพัก ตชด.ภาค 2 ก่อนที่ผู้ก่อเหตุถูกยิงเข้าที่ขา ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้สอบถามด.ต.นิมิตร ประดับกูล ผบ.หมู่ ตชด.ภาค2 เพื่อนร่วมงานและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ตายต้องมาเข้าเวรที่ป้อมยาม ตั้งแต่ช่วงเวลา ตี 3 และจะออกเวรในช่วงเวลา 09.00น. ซึ่งในช่วงเวลา 08.00 น.กว่า ตอนนั้นผู้ตายกำลังเตรียมออกเวร ได้นำอาหารเช้าเป็นข้าวเหนียวนึ่งกับปิ้งปลามากินก่อนจะออกเวร ตัวเองเลยเดินมาเล่นด้วยและได้ชงกาแฟดื่ม ซึ่งระหว่างที่นั่งคุยกันก็ไม่มีอะไร ก่อนที่สักพักดื่มเสร็จ ตัวเองก็เดินออกจากป้อมจะกลับห้องพักที่อยู่ห่างจากป้อมประมาณ 20 เมตร ซึ่งจังหวะนั้นผู้ตายก็นั่งคงถือข้าวเหนียวกับปิ้งปลาอยู่ในมือและอาจจะยังไม่ทันระวังด้วยซ้ำ และสักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด ก่อนจะเห็นผู้ก่อเหตุเดินถือปืน M16 ออกมาจากป้อม ซึ่งเป็นปืนที่เอาไว้ประจำป้อม เพื่อป้องกันเหตุร้าย มีกระสุนทั้งหมด 10 นัดและผู้ก่อเหตุได้ตะโกนมาหาตัวเองบอก ไม่ยิง กูไม่ยิงหรอก จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ถือปืน M16 เดินไปมา จึงได้แจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ
ขณะที่ ด.ต.นรทิพย์ วงคำจันทร์ เป็นเพื่อนร่วมงานของทั้งสองคน เล่าว่า ร่วมงานกับทั้ง 2 คนมาประมาณ 6-7 ปีแล้ว และจะเห็นทั้งสองคนเป็นคนที่อารมณ์ขัน ขี้เล่น แต่ผู้ก่อเหตุจะอารมณ์ร้อนกว่าผู้ตาย และระหว่างร่วมงานก็ไม่เคยเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน หรือ มีปากเสียงกันแต่อย่างใด มีแต่นั่งหัวเราะกัน แต่ผู้ตายจะเป็นคนไม่ดื่ม ส่วนผู้ก่อเหตุจะดื่ม พอดื่มก็จะมีที่อารมณ์ร้อน พูดจาโผงผาง จึงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมผู้ก่อเหตุจึงได้ทำแบบนั้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุ เป็นลักษณะห้องแถว (แฟลต) ซึ่งอยู่ในซอยที่ 3 ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ห้องผู้ก่อเหตุอยู่ห้องที่ 2 ซึ่งกุญแจห้องยังเสียบอยู่ที่ลูกบิดประตู ส่วนรถยนต์ส่วนตัวผู้ก่อเหตุก็ยังจอดอยู่ที่หน้าห้องพัก
สอบถามเพื่อนข้างห้อง เล่าว่า ในช่วงเช้าตัวเองและลูกอยู่ในห้องพัก จึงไม่เห็นผู้ก่อเหตุว่าออกจากห้องมาตอนไหน รู้อีกที คือ ได้ยินผู้ก่อเหตุเดินไปมาระหว่างที่เกิดเหตุกับห้องพัก จากนั้นผู้ก่อเหตุก็จะเดินไปมา โดยได้สะพายปืน M16 และเหน็บปืนพกสั้นไว้ที่เอว ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงแยกใกล้ห้องพัก พร้อมตะโกนว่า หลายทีแล้วนะ และผู้ก่อเหตุก็จะพูดตะโกนไปเรื่อยระหว่างที่เดินถือปืนไปมา จับใจความไม่ค่อยได้ เพราะตอนนั้นยังอยู่ในอาการตกใจ ได้แต่แอบดูอยู่ในห้อง พอผู้ก่อเหตุเดินไปด้านหลังแฟลต ทุกคนก็จะปิดประตูห้องแล้วก็ล็อกประตู
อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ก่อเหตุ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ซึ่งหากอาการดีขึ้น ตำรวจก็จะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป