"อุ๊งอิ๊งค์" เลี่ยงรับลูกตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ บอกถ้าไม่ติดโผก็ทำงานเหมือนเดิม ด้านชลน่าน เมิน ข่าวส.ส.แห่ลาออก ลั่นยังไงไม่กระทบงานสภาฯ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย หลังพูดบนเวทีปราศรัยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองมีได้ 3 คน ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดมาตลอดว่าจะส่งครบทั้ง 3 คน โดย 1 ในนั้นน่าจะเป็นนางสาวแพทองธาร ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยตนใช้สิทธิส่วนบุคคล และตนในฐานะกองเชียร์ก็เชียร์นางสาวแพทองธาร แต่เมื่อประกาศทั้ง 3 คน ตนก็ต้องเชียร์ทั้ง 3 คน ซึ่งชาวใต้ขานรับขนาดนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็น่าจะรับไว้พิจารณา แต่ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคซึ่งจะประกาศในภายหลัง

ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะหาแคนดิเดตนายกฯได้เหมาะสมมากที่สุด ถ้ามีคนที่เหมาะสมกว่าตนก็น้อมรับ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวพร้อมทำงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ต้องรอดูว่าประชาชนจะเมตตากับเรามากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนก็พร้อมทำงานกับพรรคเพื่อไทยและพร้อมทำงานให้กับประชาชนสุดความสามารถ

ส่วนประกาศตัวอย่างชัดเจนคะแนนในภาคใต้จะตีตื้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขายนโยบาย เราพูดและทำได้จริง

เมื่อถามว่าเวลาที่เหมาะสม ในการประกาศแคนดิเดตนายกฯ อยู่ในช่วงเวลาใดนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราพยายามหาตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับประชาชน "ตัวอิ๊งค์เองไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ก็ยังทำเต็มที่เหมือนเดิมถ้าไม่เป็นก็ไม่โกรธเคือง ถ้าจะเป็นก็เป็นด้วยความเต็มใจ ก็มุ่งมั่นทำนโยบายเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเรา"

มั่นใจว่าพื้นที่ภาคใต้พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แล้วแต่ประชาชนชาวภาคใต้จะกรุณา ตนยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยตั้งใจอย่างมาก ที่มาไม่รู้ว่าจะเลือกหรือไม่ แต่ตนก็ดีใจ

ส่วนกระแสพล.อ.ประยุทธ์ในพื้นที่ภาคใต้ยังแรงอยู่นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะสู้ได้หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าคนใต้เห็นว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยเสนอโดนใจคนใต้ พี่น้องลำบากมานานแล้ว เรานำเสนอความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เพราะประชาชนทุกข์มานานแล้ว

ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ประชาชน หากมีเสียงตอบรับที่ดีพรรคก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาตามข้อบังคับของพรรค

ส่วนข่าวส.ส.ลาออกนั้น มองว่ามีเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงใกล้ครบวาระสภา
แต่ละพรรคที่พยายามดูดส.ส. มีเงื่อนไขว่าต้องออกก่อนครบวาระสภา ซี่งเป็นสัญญาณและข้อผูกมัดของเขา โดยยอมรับว่าจะมีส.ส.ออกเยอะ ส่วนถามว่ามีผลต่อการทำงานในสภาหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า กฎหมายเขียนว่าให้นับจำนวน ส.ส.ที่เหลืออยู่ ฉะนั้นเหลืออยู่เท่าไหร่ก็เป็นองค์ประชุมเท่านั้น ซึ่งสามารถทำงานได้ การลาออกนั้นไม่มีผลต่อองค์ประชุมสภา แต่มีผลทำให้เรื่องของกฎหมายบางฉบับจะไม่ได้รับการพิจารณา