น้ำตานอง ! ครอบครัวหนุ่มก่อสร้างร้อง ถูกโยงเป็นกลุ่มจีนเทา ติดคุกสวมบัตรประชาชนเป็นคนต่างด้าว วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ยันเป็นผู้บริสุทธิ์และเป็นคนไทยแท้แต่กำเนิด
12 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากวันที่ 29 พ.ย. 65 นายพนา สิริกระกูลชัย อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสงขลา ถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานและสวมบัตรประชาชนเป็นคนมิใช่สัญชาติไทย ในเขตพื้นที่รับผิดชอบสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา จากนโยบายการปราบปรามกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งก็ได้มีการจับกุมกลุ่มคนที่สวมบัตรประชาชนต่างๆมาแล้วหลายรายรวมไปถึงตัวของนายพนาด้วยเช่นกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องหา 1 ราย ทราบชื่อ นายเมฆา สิริชัยรุ่งเรือง ซึ่งอยู่บ้านเดียวกันกับนายพนามีวันเดือนปีเกิดเดียวกัน และมีพ่อแม่คนเดียวกัน ทำให้นายพนาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้และไม่สามารถได้รับการประกันตัว
ล่าสุดทางครอบครัวของนายพนา ได้เดินทางไปที่สำนักงานทนายความของเพื่อเข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ช่วยเหลือนายพนาซึ่งถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา พร้อมนำเอกสารต่างๆที่มีการแอบสวมบัตรประชาชน เบื้องต้นกลุ่มทนายใจดีได้ประสานพี่น้องร่วมสายเลือดและผู้ใหญ่บ้านตลอดจนเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งแสดงถิ่นที่อยู่ผู้ให้กำเนิดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันว่า ตัวนายพนาเองเป็นคนสัญชาติไทย โดยกำเนิดและมีหลักฐานแสดงยืนยันว่าตัวนายพนาเองนั้นเคยเป็นทหารเกณฑ์อีกด้วย ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าตัวนายพนาเองนั้นเป็นคนไทยมิใช่เป็นคนจีนหรือมีความเกี่ยวโยงกันกับกลุ่มจีนเทาตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
ด้าน นางสาวสุนีย์ อุหลีโหด อายุ 41 ปี พร้อมด้วยนางสาวญาดา สิริตระกูลชัย อายุ 14 ปี และเด็กหญิงกาญจนา สิริตระกูลชัย อายุ 4 ขวบ ภรรยาและลูกของนายพนา สิริตระกูลชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยากให้ทางผู้ใหญ่ในราชการช่วยเหลือและปล่อยตัวสามีของตน เพราะสามีของตนไม่ได้ทำอะไรผิด ตนอยากให้สามีตนได้ออกมาเพราะสามีตนเป็นผู้บริสุทธิ์และอยากให้สามีตนออกมาพิสูจน์ตัวว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จริง
ปัจจุบันตนมีลูกด้วยกัน 2 คน สามีทำงานก่อสร้างและเป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนนี้ตนและลูกลำบากมากซึ่งตนไม่ได้ทำงานเลยมัวแต่เดินเรื่องให้สามีอยู่ ลูกก็ยังเรียนและยังเล็กบ้านที่จะอยู่ก็ไม่มี เพราะบ้านหลังเก่าเกิดพังจึงได้รื้อบ้านหลังเก่าทิ้งก่อนจะสร้างบ้านหลังใหม่แต่บ้านยังสร้างไม่ทันเสร็จ ต้องมาถูกจับเสียก่อนพราะสามีตนกำลังสร้างบ้านอยู่พอดี
ทางด้าน นายนุกูล แซ่ฟุ้ง อายุ 39 ปี และ นางสาววรรณภา บวรทรัพย์ศิริ อายุ 26 ปีซึ่งเป็นพี่ชายและน้องสาว ได้เปิดเผยว่า ตนอยากให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนกว่านี้ก่อนที่จะมีผู้บริสุทธิ์เหมือนกับน้องชายจะตกเป็นเหยื่อ ซึ่งล่าสุดน้องชายของตนตอนนี้ติดคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา14 วันแล้ว ในข้อหาสวมบัตรปลอมแปลงเอกสาร
ทางด้าน ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นน่าจะเกิดจากมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้าไปดำเนินการสวมบัตรประชาชนและนำวันเดือนปีเกิดของนายพนาไปลงไว้ในบัตรประชาชนไปแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานหรืออาจจะปลอมขึ้นมาเองโดยที่เจ้าพนักงานนายทะเบียนของกระทรวงมหาดไทยมิได้รับรู้ เมื่อพนักงานสอบสวนพบเห็นความผิดปกติจึงจำต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายพนาซึ่งนายพนายเองก็มีสิทธิในการต่อสู้คดีเพราะกฎหมายของประเทศไทยนั้นเป็นระบบกล่าวหา
ในวันนี้พี่น้องภรรยาและญาติๆของนายพนาได้ขอเรียกร้องความยุติธรรมต่อนายพนาและที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือการได้สิทธิในการประกันตัวด้วยเพราะตนเองและครอบครัวเป็นคนฐานะยากจนไม่มีหลักทรัพย์ใดมาประกันตัวจึงหวังพึ่งกระทรวงยุติธรรมและศาลให้เมตตาปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อออกมาต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่
ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การสวมบัตรประชาชนมีมาเนิ่นนานในประเทศไทยสาเหตุหลักๆก็เกิดมาจากเจ้าหน้าที่ทุจริตและระบบการตรวจสอบป้องกันที่อ่อนแอ ทำให้เป็นช่องว่างกับกลุ่มมิจฉาชีพหรือทุนต่างชาติต่างด้าวต่างๆเข้ามาอย่างผิดกฎหมายได้ และเชื่อว่ายังมีอีกมากเหมือนเช่นกรณีนี้