นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์พาดพิงกลุ่มส.ส.ที่เตรียมย้ายออกจากพรรคก้าวไกล ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นอย่างรุนแรงว่า ภายในสัปดาห์นี้จะไปลาออกจากสมาชิกพรรคและส.ส.พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม เปิดเผยกับสื่อว่า คนที่ออกจากพรรค ควรจะออกไปตั้งนานแล้ว ถ้าจะมาลาออกช่วงนี้ไม่มีประโยชน์ ตนก็อยากให้การออกจากพรรคก้าวไกล เป็นการจากกันด้วยดี แต่การให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอนใช้คำว่า คนที่มันเคยทรยศต่อพรรคการเมืองที่ให้โอกาสมาก่อน เป็นการด้อยค่าคนที่จะย้ายพรรค ตนจะขอตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อดูองค์ประกอบทางกฎหมายว่า เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หากเข้าข่ายก็อาจจะดำเนินคดีฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท

“นายรังสิมันต์ โรม เป็นลูกครึ่ง แต่ผมเป็นคนไทยแท้ เมื่อเป็นส.ส.อยากพัฒนาบ้านเมือง ไม่ได้อยากเป็นส.ส.เพื่อทำให้ความความแตกแยก การมาด้อยค่าคนจะย้ายพรรค ทั้งที่ผมเป็นรุ่นพ่อเขา ถามว่านักการเมืองแบบนี้ ที่บอกเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่เคารพคนเห็นต่าง มาด่าคนไม่เห็นด้วย เป็นนักการเมืองแบบไหน การย้ายพรรคมีมาตั้งนาน ไม่ใช่เพิ่งมี ถ้าย้ายออกไปพรรคอื่นถือว่าทรยศประชาชน แล้วคนที่ย้ายเข้าพรรคตัวเองกลายเป็นคนดี หูตาสว่างหรือไม่อย่างไร โดยไม่ได้ดูว่า บางคนที่เขาอยู่ไม่ได้เพราะอะไร ได้ให้โอกาสได้พูดในอภิปรายในสภาฯหรือไม่ หรือให้เฉพาะคนที่ใกล้ชิดผู้บริหาร ได้ให้โอกาสทำงานเขาบ้างหรือไม่ และถีบหัวส่งบางคนหรือไม่ กรณีส.ส.บางนา ก็ไม่ให้เขาลงส.ส.แล้วไปเอาคนอื่นมาลงแทน การพูดของนายรังสิมันต์ โรม ใช้ไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นความคิดของนักการเมืองที่ดีได้ ควรเคารพความเห็นต่าง ทำไมไม่มองที่เขาอยู่ไม่ได้ เพราะไม่ให้โอกาสเขาหรือเปล่า แล้วจะพาเข้ารกเข้าพง พอเขาไม่ไปด้วย ก็มาด้อยค่าว่า เลว ชั่ว แบบนี้เป็นจิตใจของนักการเมืองเผด็จการหรือประชาธิปไตย ถ้าผมจะดำเนินคดีแล้วไม่ต้องมาขอ”นายคารมกล่าว

นายคารมกล่าวว่า ส่วนตัวเคารพนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีบุญคุณ ทำให้ตนมาได้เป็นส.ส. หลายเรื่องที่เสนอกฎหมายเข้าสภาฯมา อย่างเรื่องปลดล็อกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนตัวเห็นด้วย ตนเกิดมากับพรรคอนาคตไม่ เมื่อโดนยุบพรรค มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ย้ายไปพรรคอื่น แต่ก็ไม่ไป อยากทำงานกับพรรคนี้ อยากเป็นส.ส.นำความคิดไปพัฒนาบ้านเรา แต่การอยู่พรรคก้าวไกล จะขอพูดในสภาฯไม่ค่อยได้ ต้องเป็นคนใกล้ชิดผู้บริหารเท่านั้น และการทำงานหลายอย่างน่ามีปัญหา และมีการกระทำบางอย่างที่หมิ่นเหม่ อย่างเรื่องการแก้มาตรา112.