"สันธนะ" แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอความเป็นธรรมคดีที่ "พล.ต.ต.วิชัย" แจ้งความหาว่ารับเงินบ่อนมีนบุรี 50 ล้านบาท

13 ธ.ค. 65 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีต รอง ผกก.สันติบาล เดินทางมาพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมเปิดเผยภัยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้ตนมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ในคดีที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เมื่อ พ.ย.ปี 2564 เพื่อให้ดำเนินคดีกับตนในข้อหา”หมิ่นประมาท” กล่าวหาว่ารับผลประโยชน์ 50 ล้านบาท จากบ่อนการพนันย่านมีนบุรี

 

นายสันธนะ กล่าวว่า "เรื่องดังกล่าวเกิดจากการที่ตนร้องเรียน ผบช.น.เรื่องบ่อนที่ลำหิน ว่ามีอดีตนายพลตำรวจชื่อแต้ม เกี่ยวข้องกับบ่อนนั้น จากนั้นมีผู้สื่อข่าวสอบถามรายละเอียดมาตนก็ส่งหนังสือร้องเรียนไปให้ ซึ่งในหนังสือร้องเรียนไม่ได้ระบุว่าเป็นเขา ซึ่ง พล.ต.ต.ชื่อแต้มในประเทศไทยมีเขาเพียงคนเดียวหรือเปล่า ซึ่งจะต้องนำสืบให้ได้ก่อน แต่ปรากฎว่ามีสมาชิกในไลน์คนหนึ่งที่ไม่ใช้นักข่าวเอาข้อมูลนั้นส่งให้เขาไปทั้งหมด โดยเขาบอกว่าอ่านแล้วเชื่อว่า พล.ต.ต.คนนี้คือคนที่แจ้งความดำเนินคดีตนว่าหมิ่นประมาทเขาข้อมูลที่ตนส่งให้เป็นไลน์ส่วนตัวไม่ใช่สาธารณะ การที่เขาส่งข้อมูลต่อให้บุคคลที่สามแล้วมาพาดพิงตนโดยไม่บอกกล่าวตนก่อน และตีความเองว่าเป็น ตำรวจคนนั้นเป็น พล.ต.ต.วิชัย"

 


"ซึ่งบุคคลคนนี้ที่เอาข้อมูลส่งให้คนแจ้งความตนหากินอยู่กับบ่อนการพนันอยู่แล้ว ในสำนวนการสอบสวนของกองปราบฯ เขาปกปิดข้อมูลบุคคลนี้ไว้ ตนเชื่อว่าไม่ใช่สื่อฯ มาเป็นพยานแน่นอนเมื่อพนักงานสอบสวนกองปราบมีความเห็นสั่งฟ้องตนเมื่อ 6 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ต่อพนักงานอัยการจังหวัดมีนบุรี พร้อมตนซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ได้ขอตรวจดูสำนวน ก็พบว่าเป็นบุคคลดังกล่าวจริงที่มีความสัมพันธ์กับผู้แจ้งความดำเนินคดีตนจริง ปัจจุบันก็มีการเดินทางเข้าออกทำบ่อนอยู่ที่ปอยเปต"

 

 

"เมื่อคุณเอาพยานที่รู้จักกันทำบ่อนอยู่ตั้งแต่รับราชการอยู่ที่นครบาลมาเป็นพยานในคดีแบบนี้ตนก็เชื่อว่าจะต้องรู้จักกัน เมื่อใช้พยานที่ทำบ่อนมาอ่านข้อความที่มาแจ้งความตน อ่านแล้วเชื่อว่าเป็นผู้แจ้งความก็เป็นเรื่องของคุณ พยานน้ำหนักแบบนี้รับฟังได้หรือไม่ พนักงานสอบสวนต้องทราบด้วยว่าบุคคลที่มาเป็นพยานนั้นเป็นใคร การรับฟังบุคคลที่ประกอบอาชีพแบบนี้ ของพนักงานสอบสวนจึงต้องไปร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการยินดีให้ความร่วมมือมาพบพนักงานสอบสวนตามที่มีหลายเรียก ไม่คิดที่จะหลบหนีแต่อย่างใด คดีแบบนี้สำหรับตนเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ทำให้ตนเสียเวลามากกว่าการที่พนักงานสอบสวนรับฟังพยานแบบนี้ ทำสำนวนแบบนี้แล้วตนจะได้รับความเป็นธรรมอย่างไร เมื่อตนไปทราบจากพนักงานอัยการว่ามีพยานปากนี้ในสำนวนจึงต้องมาขอความเป็นธรรม วันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวนจึง ขอให้ปรากฎชื่อพยานปากนี้ในสำนวนคดีดังกล่าว และในวันที่ 23 ธ.ค.65 เวลา 13.00 น. ที่พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวพร้อมสำนวนต่อพนักงานอัยการจังหวัดมีนบุรี ตนจะทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการต่อไป" นายสันธนะ กล่าว