"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นสอบ อธิบดีกรมการปกครอง หลังร้องยุบสมาคม "ศรีสุวรรณ" 7 เดือน ดคีไม่คืบ อัด ทำงานล่าช้าเหมือนเต่าคลาน เผยผู้ถูกร้องเสียหาย บางรายหมดอนาคต บอกพี่ศรีร้องตะพึดตะพือ ฟังไม่ได้ศัพจับไปกระเดียด ด้าน "เสรีพิศุทธ์" แย้มนอกจากศรีสุวรรณ มี "สนธิญา" จ่อเชือด เหตุร้องไปเรื่อย
วันที่ 14 ธ.ค. 2565 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตและประพฤติผิดมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับอธิบดีกรมการปกครองและเจ้าหน้าที่ หลังจากไม่ยอมเพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยของนายศรีสุวรรณ จรรยา
โดยทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่ตนยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมการปกครองให้ตรวจสอบของนายศรีสุวรรณ จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว กรมการปกครองและเจ้าหน้าที่ยังทำงานล่าช้าแบบเต่าคลาน ที่ผ่านมามีประชาชนสอบถามความคืบหน้าเข้ามาจำนวนมาก แต่ตนขี้เกียจตอบปัญหาว่าสมาคมของนายศรีสุวรรณจะถูกถอดถอนเมื่อไหร่ มองว่าการกระทำของนายศรีสุวรรณก่อให้เกิดความเสียหายให้กับผู้ถูกร้องเรียนจำนวนมาก
"บางคนมีตำแหน่งหน้าที่ในราชการ ถูกนายศรีสุวรรณร้องเรียนจนต้องถูกออกจากราชการ และสุดท้าย เมื่อมีการสืบสวนสอบสวน ตั้งกรรมการสอบวินัยแล้ว ไม่มีความผิด แต่เขาต้องเสียอนาคต ไม่สามารถที่จะแก้ไข อย่างไรได้ เรื่องก็เงียบหายไป"
ทนายอนันต์ชัย ระบุต่อว่า ผู้ถูกร้องเรียนแต่ละคนมีผลกระทบที่ได้รับ คือการไม่มีอาชีพ และไม่มีเงิน ชื่อเสียงย่อยยับ ทั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยก็เป็นห้องแถวเล็กๆ ไม่มีป้าย และนายศรีสุวรรณก็ทำงานเพียงคนเดียว ไม่มีการประชุมแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งการประชุมสามัญ วิสามัญ การประชุมเลือกกรรมการ งบดุลก็ไม่มีการส่ง อย่างไรก็ตาม ตนรวบรวมหลักฐาน และเสนอสำนวนไปยังอธิบดีกรมการปกครองถึง 8 แฟ้ม แต่ผ่านมาหลายเดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า ล่าสุดที่นายศรีสุวรรณร้องเรียนคือเรื่องการยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีกระดาษไม่กี่แผ่น ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงไม่ตรวจสอบทุนจีนสีเทาซึ่งเป็นประเด็นมากกว่า
“การร้องเรียนของศรีสุวรรณ มี 2 อย่างคือ ร้องตีฉิ่ง คือร้องกันเอาไว้ไม่ให้คนอื่นมาร้อง เรื่องก็เงียบหายไป สองคือการร้องจริง แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด”
ทนายอนันต์ชัย ย้ำว่า คนถูกร้องเสียหายมาก นอกจากนี้ ยังกระทบไปถึงญาติ เพื่อนฝูง และผู้บังคับบัญชา เสียหายไปทั้งระบบ ในปีที่แล้ว นายศรีสุวรรณร้องเรียนเรื่องส่วนตัวถึง 353 เรื่อง มองว่าการร้องเรียนไม่ใช่ร้องตะพึดตะพือ ตอนนี้ตนมีความเหลืออดกับการกระทำดังกล่าว จึงยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ตรวจสอบ หากพบว่ามีการละเลยต่อหน้าที่ให้ดำเนินคดีกับอธิบดีกรมการปกครองรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อเป็นตัวอย่างของการทำงานล่าช้า
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขอบคุณทนายอนันต์ชัย พร้อมกับระบุว่า 7 เดือนแล้วที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากกรมการปกครอง ตนมองว่าไม่ควรใช้เวลานานแบบนี้ กรมการปกครองทำงานล่าช้า ซึ่งหากเป็นตามวิสัยคนไทยที่เฉื่อยชา
“อย่างคุณศรีสุวรรณ ท่านก็เห็นอยู่แล้วไปยื่นเรื่องอะไรก็แล้ว แต่ไม่ได้มีเอกสาร ประกอบหลักฐานแบบนี้ ไปยื่นหนังสือใบเดียว 2 ใบ กล่าวหาเขาแล้วโดยอ้างสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่คำนึงถึงความเสียหายของใครบ้าง แล้วตัวเองก็ยอมรับกับสื่อทุกเวทีแล้วว่าได้รับค่าตอบแทน รับเข้าส่วนตัว ไม่ได้รับเข้าสมาคม”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ลักษณะดังกล่าว เป็นการหากินที่ไม่สุจริต หากนายศรีสุวรรณเป็นข้าราชการก็ตายไปแล้ว เพราะมีเรื่องวินัย ตอนนี้ตนยื่นฟ้องนายศรีสุวรรณไปแล้วปีกว่าเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
“พี่น้องประชาชนก็ถามว่าทำไมไม่ดำเนินการสักที มันซ่าเหลือเกิน ผมขอเรียนว่ามันไม่ได้อยู่ในอำนาจของผม”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ชอบยื่นร้องเรียนเช่นเดียวกัน และพยายามหาผลประโยชน์ ตนได้ฟ้องนายสนธิญาไป 3 คดี มี 2 คดี ที่ยอมรับสารภาพจนมุม