"เกาะสมุย" คึกคักเรือสำราญ "Mein Schiff 5" พานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 3 พันคนเทียบท่า

17 ธ.ค. 65 ที่ท่าเทียบเรือ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย ร่วมกับ อำเภอเกาะสมุย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอำเภอเกาะสมุย และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมต้อนรับเรือสำราญลำที่ 2 Mein Schiff 5 จุดแวะพักเกาะสมุย One Day Trip ที่นำผู้โดยสาร 1,897 คน ลูกเรือ 917 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เดินทางท่องเที่ยวทัวร์เกาะสมุย

นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวกรุ๊ปใหญ่นี้ จะเน้นท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะโดยโอกาสให้ท่องเที่ยวชุมชนมีส่วนร่วมในการต้อนรับและให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสปา แหล่งช้อปปิ้ง การเลือกซื้อหาสินค้าพื้นเมือง การรับประทานอาหารพื้นถิ่น ของกินของใช้ตามสไตล์นักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถกระจายรายได้สู่ประชาชนในพื้นที่ได้ครบทุกมิติ

นางศุภากาญจน์ ยอดฉุน ผอ.ททท.สำนักงานเกาะสมุย กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่การเดินทางของนักท่องเที่ยวเรือสำราญลำที่ 2 ที่เข้าสมุยนี้ ได้มีการบรรจุขายแพจเกจทัวร์ในเรือสำราญที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวชุมชนเป็นครั้งแรก ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิต ชุมชน ที่ทรงคุณค่า ร่วมกัน นอกเหนือจากกระจายรายได้แก่สู่ชุมชน ท้องถิ่นจากมุมขายของที่ระลึก Samui Local Charm
สำหรับ เรือสำราญ Mein Schiff 5 นับว่าเป็นเรือสำราญลำที่ 2 ที่เข้าสมุย หลังจากลำแรก“M.V.Viking Mars” เข้าเมื่อ 27 พ.ย. 65

การเปิดพื้นที่การท่องเที่ยว โดย Mein Schiff 5 เดินทางตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน -21 ธันวาคม 2565 รวม 46 วัน ออกเส้นทางจาก Antalya ประเทศตรุกี - ประเทศสิงคโปร์ -ประเทศในกลุ่มอาเซียน-ประเทศสิงค์โปร์ (สำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียนมีจำนวน 14 วัน จากสิงค์โปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย(เกาะสมุย แหลมฉบัง) สิงค์โปร์ ) โดยเรือได้แวะพักที่โฮจิมินห์ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก่อนเข้าเกาะสมุยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเกาะสมุยช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน อิสราเอล อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย โดยช่วงเดือนมกราคม- พฤศจิกายน 2565 มีผู้เดินทางมาเยือนเกาะสมุย 1.59 ล้านคน/ครั้ง เกาะพะงัน 0.67 ล้านคน/ครั้ง และเกาะเต่า 0.33 ล้านคนครั้ง สร้าง รายได้รวมประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท