"ธนกร"เผย"นายก"กำชับทุกหน่วยงานช่วยชาวบ้านประสบอุทกภัยที่ภาคใต้ สงขลา นครศรีธรรมราช ท่วมหนัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  มีความห่วงใยและไม่นิ่งนอนใจในปัญหาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักหลายพื้นที่ภาคใต้  ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา จำนวนหลายจุด ซึ่งตนเองเพิ่งลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามความพร้อมการรับมือสถานการณ์อุทุกภัย ณ  จังหวัดสงขลา เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565  และลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (9 ธันวาคม 2565) และได้ติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยได้รายงานถึงสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงความเดือดร้อนที่พี่น้องกำลังเผชิญอยู่ให้กับท่านนายกฯ ทราบ และท่านนายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาและเยียวยา รวมถึงหามาตรการช่วยเหลือหลังจากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วให้ถูกจุดและรวดเร็วที่สุดอย่างเร่งด่วนให้ทันท่วงที

โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มทั้งหน่วยงาน ปภ.ในจังหวัดได้ประสานงาน

กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ได้ออกไปช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบในเบื้องต้น เป็นการเร่งด่วนแล้ว พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ตามลุ่มน้ำสายสำคัญใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวัง เตรียมความพร้อม ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่เสี่ยงและการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ไปจนถึงวันที่  20 ธันวาคม 2565   อีกทั้งได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ การแจ้งเตือนประชาชน การเผชิญเหตุและการให้ความช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือ เยียวยาทุกครัวเรือนอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมมากที่สุด พร้อมขอเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

สามารถติดตามสายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมายเลข 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งสื่อวิทยุโทรทัศน์ , วิทยุกระจายเสียง , สื่อออนไลน์ ที่จะเป็นสื่อกลางแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชน เพื่อให้ได้รับการอพยพในพื้นที่ประสบภัยและได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที