น้ำเข้าเรือเดินทะเลสัญชาติอินโดนีเซียจนเอียง ต้องสละเรือเข้าเกยตื้น ลูกเรือพร้อมกัปตันลอยแพชูชีพเข้าฝั่งปัตตานี
วันที่ 19 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 13.00 น.ที่บริเวณหาดตะโละกาโปร์ ในพื้นที่ ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้มีเรือขนาดใหญ่ เกยตื้นบริเวณหาดตะโละกาโปร์ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างออกมาดูกันอย่างมากมาย และพบเรือยางที่กำลังลอยอยู่บริเวณนั้น จึงได้เข้าช่วยเหลือเพราะเกรงว่าอาจจะประสบอุบัติจากการเดินเรือในช่วงนี้ที่มีมรสุม
เมื่อทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานีได้มายังพื้นที่ จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือเรือยางดังกล่าว และพบกับลูกเรือจำนวน 8 คน จากการตรวจสอบพบว่าเรือที่เกยตื้นเป็นเรือกลเดินทะเล สัญชาติอินโดนีเชีย โดยมีการสอบถามกับทางเจ้าของเรือจึงทราบว่า เรือดังกล่าวได้เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาครในวันที่10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อเดินทางไปยังเมืองเมรัก ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีลูกเรือ 8 คน รวมกัปตัน
เมื่อเรือเดินทางในวันที่ 13 ธันวาคม ทางกัปตันได้ทิ้งสมอเรือบริเวณปากร่องน้ำนราธิวาส ห่างจากฝั่ง 6 ไมล์ทะเล เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เรือเอียง ปรากฏว่ามีน้ำอยู่ในระวางที่ 1 บริเวณใกล้หัวเรือ ของทั้งหมด 3 ระวาง พบว่าน้ำจากระวาง 1 เข้าไปในระวาง 2 โดยเรือเอียงไปด้านเดียวทางกราบซ้าย แต่ไม่สามารถใช้ปั๊มสูบน้ำท้องเรือได้เนื่องจากใยแก้วไปอุดเครื่องสูบน้ำที่จะปั๊มน้ำออก จึงใช้วิธีถ่วงเรือทางกราบขวาเพื่อให้เรือตั้งตรง
แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จ จึงใช้เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม และระหว่างนั้นได้ประสานบริษัทเพื่อเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อซ่อมแซม แต่ปรากฏว่าขณะเดินทางมีคลื่นลมแรงจนทำให้เรือเอียงมาก จาก 7 องศา ไปที่ 10 องศา จึงตัดสินใจนำเรือมาเกยตื้น บริเวณหาดตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ในช่วงค่ำในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา และในวันที่ 19 ธันวาคม นายเรือพบว่าเรือเอียงเพิ่มขึ้นประมาณ 15 องศา จึงตัดสินใจแจ้งไปยังกรมเจ้าท่าปัตตานี เพื่อแจ้งว่าเรือประสบปัญหา ก่อนที่จะสละเรือเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเรือ โดยอาศัยเรือยางเป็นพาหนะเพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่จะพบกับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า พร้อมชาวบ้านบริเวณดังกล่าวที่ได้ให้ความช่วยเหลือ ดึงแพชูชีพขึ้นจากทะเล และพาลูกเรือทั้ง 8 คนขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย