"หมอชลน่าน" ซัด "ประยุทธ์" ตั้ง "พีระพันธุ์" นั่งเลขาไม่เห็นหัวประชาชน เล็งตรวจสอบเข้าข่ายครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่ ด้าน "ไชยา" จับตาอาจมีการใช้งบหลวงหาเสียง
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า การที่นายกรัฐมนตรีตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามที่ทุกฝ่ายได้ติดตามมาตลอดและเห็นว่าเป็นไปตามนั้น หากถามว่านายกรัฐมนตรีทำได้หรือไม่ก็ต้องบอกว่าทำได้ ไม่มีกฎหมายใดๆที่จะไปห้ามว่า ไม่ควรตั้งหรือห้ามแต่งตั้ง แต่ถามว่าเหมาะสมหรือสมควรหรือไม่ หรือทำเพื่อการใด อันนี้เป็นคำถาม เพราะอายุของสภาผู้แทนราษฎรเหลือถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 การเปลี่ยนแปลงบุคลากรของรัฐโดยเฉพาะฝ่ายการเมืองในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ในช่วงเวลาเช่นนี้ โดยสามัญสำนึกแล้วถือว่าไม่เหมาะสม และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนเดิมก็มีความรู้ความสามารถ ไม่ได้บกพร่องอะไร ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการแต่งตั้งตรั้งนี้เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงานที่ควรจะเป็น และ ทำให้มองว่าความไม่เหมาะสมตรงนี้ เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือไม่ เป็นการเอื้ออำนวยให้กับพรรคการเมืองที่มีข่าวว่าพลเอกประยุทธ์จะไปสังกัดหรือไม่
"ตำแหน่งนี้พูดง่ายๆพลเอกประยุทธ์ไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชนเป็นการใช้หน้าที่และอำนาจทางการเมืองเพื่อประโยชน์ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง"
ส่วนจะถือเป็นการครอบงำพรรคการเมืองอื่นอยู่หรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าหากสมาชิกหรือพรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลภายนอกมาชี้นำ ในการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง หรือจะทำให้สมาชิกขาดความอิสระในการทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น ก็ต้องดูว่าการตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองไปเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ ก็ต้องดูข้อกฎหมายก่อน
ด้านนายไชยยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทยกล่าวว่าในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการติดตามการใช้งบประมาณ สภาผู้แทนราษฎรตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากนี้อาจจะมีการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบกลางที่อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ต่อการเมือง และจากการติดตามมีหลายโครงการในการใช้งบกลางที่ส่อไปในทางทุจริต มีการอบรมให้กับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ดังนั้นตั้งข้อสังเกตว่าจากนี้ไปจะมีการพิจารณาใช้งบกลางในลักษณะนี้