ศาลอนุญาตฝากขัง ประสพโชค คดีจ้างวานฆ่านายก อบต.บางสมบูรณ์ ชี้พฤติการณ์โหดร้าย ไร้คนยื่นประกัน คอตกเข้าเรือนจำ
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามคุมตัว นายประสพโชค นิ่มเรื่อง อายุ 60 ปี รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย อดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ ปัจจุบันอาชีพ ผู้ช่วย ส.ส. ผู้ต้องหาในคดีจ้างวานกลุ่มมือปืนก่อเหตุขับรถประกบยิง ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ที่เพิ่งถูกจับกุมตัวเมื่อวานที่ผ่านมา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน อ่านข่าว ประสพโชค เครียด ตร.คุมฝากขัง-ค้านประกัน เจ้าตัวปฏิเสธ ลั่นไร้กังวลหลับสบายดี
ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็น ผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ต้องให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.65 เวลา 21.20น. นายรัฐพล หรือบิ๊ก ตันสุวรรณรัตน์ ซึ่งเป็นลูกน้อง ผู้ใกล้ชิดของนายประสพโชค นิ่มเรื่อง ผู้ต้องหา และนายภูริวัฒ หรือออด นิ่มเรื่อง ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ต้องหาก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าที่มีอานุภาพร้ายแรง
ซึ่งนายธวัชชัย ศรีชาญ เป็นผู้จัดหามาให้ นำมาใช้ก่อเหตุกราดยิงใส่รถยนต์ตู้ ยี่ห้อฮุนได ของนายญาณกร โทประยูร ขณะรถยนต์กำลังแล่นอยู่ที่บริเวณ ถนนปากท่อ เตยน้อย หมู่ 2 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เป็นเหตุให้นายวัชระ นุชแดง คนขับ และนายสมชาย ม่วงกาศ ผู้โดยสารในรถยนต์คันดังกล่าวเสียชีวิต ส่วนนายญาณกร เจ้าของรถยนต์ที่โดยสารมาในรถด้วย ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายรัฐพล, นายธวัชชัย และนายนพดล หรือ สจ.เอี้ยง อานทอง ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เกิดเหตุ ได้กระทำการในลักษณะเป็นขบวนการ เเลละแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายธวัชชัย มีหน้าที่ในการจัดหาอาวุธปืนสงครามอาก้า ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงใช้ในการก่อเหตุยิงผู้ตายกับพวก
เเละหลังจากก่อเหตุ นายธวัชชัย, นายนพดล และนายรัฐพล ยังพากันนำรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจ สีเทา ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ ไปให้ช่างรถยนต์ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซ่อมร่องรอยเฉี่ยวชนของรถ ที่เกิดจากการขับขี่เฉี่ยวชนกับรถยนต์ตู้ของผู้เสียหายขณะเกิดเหตุ
โดยมีเจตนาทำลาย พยานหลักฐาน โดยการว่าจ้างให้นำรถคันที่ใช้ก่อเหตุไปทำลาย จากนั้นนายรัฐพล, นายธวัชชัย และนายนพดล พากันไปซื้อรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจ สีเทา ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับรถยนต์ คันที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าวมาทดแทน โดยมีเจตนาบิดเบือน ปิดบัง ซ่อนเร้น เพื่อเบี่ยงเบนพยานหลักฐานทางคดี
จากพฤติการณ์ดังกล่าวจึงเห็นได้ว่า การกระทำของกลุ่มบุคคดังกล่าวข้างต้น เป็นการร่วมกันกระทำผิดในลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำและวางแผนในการก่อเหตุเป็นอย่างดี
ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายรัฐพล, นายภูริวัฒ และนายธวัชชัยในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายนพดลในความผิดฐาน ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
ซึ่งในเวลาต่อมาสามารถ ติดตามจับกุมนายภูริวัฒ และนายธวัชชัย มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ส่วนนายรัฐพล หลบหนีไป และเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2565 เวลาประมาณ19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายรัฐพล เสียชีวิตในสภาพศพผูกคออยู่กับ ต้นไม้ข้างห้องพักภายในรีสอร์ท อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้งตรวจชันสูตรพลิกศพ
จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลทราบว่า นายประสพโชค นิ่มเรื่อง ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็น ผู้ใช้จ้างวานให้นายรัฐพลกับพวกก่อเหตุในคดีนี้ และหลังเกิดเหตุนายประสพโชค ผู้ต้องหาช่วยเหลือนายรัฐพลในการหลบหนี และพาไปหลบซ่อนตัวให้อาศัยอยู่ที่รีสอร์ทดังกล่าว เพื่อไม่ให้นายรัฐพลถูกจับกุม
ต่อมาพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายประสพโชค นิ่มเรื่อง ผู้ต้องหาลงวันที่ 16ธ.ค.65 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ต้อง ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายประสพโชค ผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังกล่าวข้างต้นได้ที่บริเวณลานจอดรถชั้นที่ 5 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โดยพนักงานสอบสวนแจ้ง ข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นฯ โดยพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานอีก10ปาก รอผลตรวจพิสูจน์รายริ้วมือผู้ต้องหาจึงขออนุญาตศาลฝากขัง
ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาได้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยการใช้อาวุธปืนสงครามซึ่งมีอานุภาพร้ายแรง ในการก่อเหตุยิงผู้ตายอย่างอุกอาจ ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเป็นคดีที่มี อัตราโทษสูง
ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ หากผู้ต้องหายื่นคำร้องประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว
ซึ่งทางผู้เสียหายก็ร่วมค้านการปล่อยชั่วคราวโดยให้เหตุว่า เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ของผู้เสียหายในคดีและเกรงว่าจะ ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต