"ชูวิทย์" ชำแหละ "ผบช.น." ทำคดีตู้ห่าวมีพิรุธ พร้อมเป่านกหวีดแจกใบแดงไล่พ้นเก้าอี้ เหตุไม่นำผังเส้นทางการเงินเข้าสำนวน แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวและพวก จนตำรวจน้ำดีทนไม่ไหว

วันที่ 22 ธ.ค.65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แถลงล่าสุดคดีตู้ห่าว เปิดประเด็นขอให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ออกจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากประชาชนไม่สามารถไว้วางใจให้ พล.ต.ท.ธิติ อยู่ในนครบาลต่อไปได้ ต้องไล่ออกไป พร้อมโชว์หลักฐานเส้นทางการเงินคดีตู้ห่าวที่ได้มาสด ๆ ร้อน ๆ จากนายตำรวจยศนายร้อยที่ทำคดีนี้ ส่งถึงมือชูวิทย์โดยตรงเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเส้นทางการเงินที่ชูวิทยูเปิดเผยกับสื่อนั้น เป็นส่วนผับจินหลิง ซึ่งมีการโอนเงินของ 2 คนสำคัญ คือโอนไปยังนายฟูจิ ซิง (ซึ่งมีคดียาเสพติด) และนายหยาง เฉิน (หนีไปแล้ว) จากนั้นบัญชีนายหยางเฉิน ได้โอนไป-มา กับนายเซ็นบิ เฉิน และนายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง (เปิดบัญชีม้า) ในท้ายสุดบัญชีนายสิทธิพงษ์โอนไปยัง บริษัทโมเดิร์นเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ที่มีนายตู้ห่าวเป็นกรรมการบริษัท โดยนายตู้ห่าว ถือ 50% และมีนายสิทธิไพบูลย์ คำนิล เป็นกรรมการบริษัท ทั้งนี้ บุคคลสำคัญในบริษัทแห่งนี้ คือ นายจีนฟูเป็นผู้จัดการและเป็นคนใกล้ชิดของนายตู้ห่าว 

ด้านนายชูวิทย์ จึงตั้งคำถามว่า ข้อมูลชัดขนาดนี้ ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินอีกหรือ และได้เรียกใครมาสอบปากคำสักคนบ้างหรือไม่

สิ่งที่ดูแปลกตรงที่ผังเส้นทางการเงินชิ้นนี้ไม่อยู่ในสำนวน ทั้ง ๆ ที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้รับมอบ ม้วนกระดาษจากพ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ทำผังเส้นทางการเงินของร้านจินหลิง ซึ่งปรากฏให้เห็นว่ามีการโอนเงินให้บุคคลใดถึงบุคคลใดบ้าง และปลายทางก็ถูกโอนไปถึงธุรกิจของนายตู้ห่าว ซึ่งเป็นขบวนการฟอกเงินที่ชัดเจนที่สุด และการฟอกเงินนั้นคำนวณเป็นกรรม ยิ่งพบเยอะยิ่งผิดหลายกรรม ที่น่าสงสัยคือ ผังนี้ ทางผบช.น.นำไปเก็บไว้คนเดียว ไม่นำออกมาประกอบสำนวนเพื่อเเจ้งข้อหาฟอกเงินแก่นายตู้ห่าวและพวก 

นายชูวิทย์ ได้แนะนำให้ พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. เข้าเครื่องจับเท็จ ถ้าไม่เข้าก็ให้ลาออก และขอให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ด้วย เพราะท่านไม่น่าไว้วางใจขนาดไหน ให้ดูจากที่ระดับผู้ใต้บังคับบัญชาส่งข้อมูลให้ตนเอง และท่านยังชอบทำงานแบบวันแมนโชว์ฟอร์ตู้ห่าว ไม่ใช่วันแมนโชว์เพื่อชาติ

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า ตนเองเป็นห่วงถึง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด จะเป็นอันตราย เพราะจะถูกสำนวนคดีของผบช.น. ที่อ่อนเละเทะมาหลอกได้ อีกทั้ง ผบช.น. ยังอำพรางคดี ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าคดียาเสพติดนั้นโทษสูงถึงขั้นประหารชีวิต แต่กลับไม่มีพยานหลักฐานที่ชี้ถึงความเกี่ยวข้องเรื่องยาเสพติด และยังจะไม่มีการแจ้งข้อหาฟอกเงินอีกตนมองว่าเป็นเรื่องที่เลวระยำมาก ทั้งนี้ การแถลงข่าวของ ผบช.น. ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เรื่อง ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 

นายชูวิทย์ ยังท้า พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. ให้ไปสาบานด้วยกันที่สนามหลวงว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง และถ้าจะฟ้องกลับตนเองยิ่งชอบ เเละพร้อมเปิดหลักฐานในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม ถ้า ผบช.น. ไม่มีการตั้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งๆที่มีพยานหลักฐานชัด คงต้องโดนแจ้ง ม.157 และ ม.200 ทั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าที่ ผบช.น. ไม่กล้าดำเนินคดี เพราะกลัวจะมีปัญหากับนักการเมือง ตำรวจในและนอกราชการ ส่วนที่เจ้าตัวบอกว่า "ที่ยังไม่แจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพราะกลัวโดนฟ้อง" ตนเองมองว่าไม่ใช่เหตุผล

ในระหว่างแถลงข่าว นายชูวิทย์ เป่านกหวีดและแจกใบแดงไล่ พล.ต.ท.ธิติ ออกจากตำแหน่ง ผบช.น. เพราะมองว่าตำรวจทราบตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่ามีเรื่องเส้นทางการเงินหลายเส้นสืบถึงนายตู้ห่าว แต่กลับเพิกเฉย.

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.65) นายชูวิทย์จะเดินทางไปให้การกับคณะอัยการสูงสุด ที่สำนักงานอัยการคดีอาญา-คดีแพ่งตลิ่งชัน และจะนำเอาผังเส้นทางการเงินฉบับนี้ไปเปิดให้อัยการเห็นชัด ๆ ในเวลา 11.00 น. ด้วย