โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตโพสต์ขอบคุณ ครอบครัวน้องพราว ด.ญ.3ขวบ บริจาคอวัยวะ มอบชีวิตใหม่ผู้ป่วยคนอื่น พบเป็นผู้บริจาคอายุน้อยที่สุด
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 18 ธค.65 ที่ผ่านมา พ่อ-แม่ และญาติได้ส่งตัวน้องวัยเพียง 3 ปี มีนักษาที่ รพ.วชิระภูเก็ต และน้องได้จากไปอย่างสงบแพทย์สันนิษฐานว่า หัวใจน้องล้มเหลวเฉียบพลัน พ่อแม่และญาติได้ปรึกษาและมีมติบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาลวัชระภูเก็ต
ล่าสุดวันนี้ (22 ธค.65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสุวรรณคีรีเขตุ (วัดกะรน) พูดคุยกับ
น.ส.สุธาทิพย์ นาดอน อายุ 39 ปี (แม่น้องพราว) กล่าว่า น้องพราวเป็นเด็กน่ารักพูดเก่งขี้อ้อน จะเป็นเด็กที่สนิทกับคุณยายมากที่สุดเค้าจะเป็นคนที่ติดคุณยายมาก เป็นเด็กฉลาด ไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกว่าน้องพราวจะไม่อยู่กับแม่อีกแล้ว ไม่นึกว่าน้องพราวจะจากไปเป็นนางฟ้าจริงๆ
ขณะที่นางมณี นาดอน อายุ 59 ปี คุณยาย ที่น้องสนิทมากที่สุด กล่าวว่า หลานเป็นเด็กน่ารักไม่มีสัญญาณอะไรที่บอกว่าน้องพราวหลานสาวจะจากยายไป
ถามว่าทำไมถึงบริจาคร่างกายและอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาล ตนได้ปรึกษาคุณแม่น้องพราวแล้วปรึกษาญาติญาติพี่น้องกันทั้งหมดแล้วเห็นชอบว่าให้ตนดำเนินการบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพราะยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นซึ่งมีเด็กที่รอเปลี่ยนอวัยวะอยู่อีกสองคนและมีเด็กที่ต้องการดวงตาอยู่อีกสองคน ดีกว่าเรานำร่างของน้องพราวไปเผาแล้วทุกอย่างกลายเป็นเถ่าถ่าน ส่วนที่น้องพราวได้บริจาคไปนั้นยังไปช่วยชีวิตให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ดำเนินชีวิตต่อไปด้วย เป็นบุญของน้องพราว ตนไปกระซิบข้างหูน้องพราวว่า ยายจะบริจาค อวัยวะ น้องพราวให้กับทางโรงพยาบาล ตนรู้สึกเหมือนกับน้องเรารับรู้น้องพราวหน้าตาเอิบอิ่มไปด้วยบุญ ตนไปจับแขนน้องพราวรู้สึกว่าตัวน้องพราวยังนิ่มอยู่และน้องพราวเหมือนคนนอนหลับริมฝีปากแดงน่ารักมาก ตอนนี้อยากเจอน้องพราวไม่กลัวน้อง ยายอยากกอดน้องพราวด้วย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อพบกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ กล่าวว่า เคสนี้เป็นเด็ก 3 ขวบเท่าที่ทราบมาเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่บริจาคอวัยวะ อวัยวะที่ได้รับบริจาคจากคนไข้จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ทางสภากาชาดเป็นผู้รับไปให้กับผู้ป่วยที่รออยู่อีกครั้งหนึ่ง แต่เราไม่ทราบว่าผู้รับเป็นใครแต่อวัยวะที่ได้รับบริจาคจากผู้ป่วยรายนี้มีแก้วตาทั้ง2 ข้าง และม้ามอีกด้วย
เป็นความเชื่อที่ผิดๆของชาวบ้าน เราไม่ว่ากันที่ส่วนใหญ่จะพูดกันว่าการบริจาคอวัยวะถ้าเกิดมาอีกครั้งหนึ่ง จะมีอวัยวะไม่ครบอันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะผู้บริจาคดวงตาหรืออวัยวะนั้นเป็นบุญเป็นกุศลใหญ่ที่จะนำพาให้ผู้ได้บริจาคนั้นกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ผู้ที่บริจาคนั้นก็เกิดอีกชาติหนึ่งก็จะมีอวัยวะที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่นดวงตาก็จะมีดวงตาที่สวยงามกว่าเดิม เป็นอวัยวะภายในตับปอดม้าม ก็จะเป็นอวัยวะที่ดีกว่าเดิมอย่างนี้เป็นต้น โดยเฉพาะการบริจาคดวงตานั้นทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญลอกเอาเฉพาะแก้วตาไปใส่ให้กับผู้ป่วยอีกรายหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ควักเอาลูกตาไปทั้งหมด แต่เอาเลนส์ตาหรือแก้วตาออกไป ให้กับคนป่วยอีกรายหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอีกครั้ง