ครอบครัวผู้สูญหายติงกองทัพเรือปฏิบัติงานล่าช้า ญาติ "จ่าบูม" เชื่อยังปลอดภัย เหตุไม่มีลางสังหรณ์ ปาฏิหาริย์มีจริง หลานชายอาจติดอยู่กับเกาะ แก่งต่าง ๆ หรือมีเรือประมงช่วยไว้
วันที่ 24 ธ.ค.65 ครอบครัวจ่าโทสหรัฐ อีสา หรือ จ่าบูม หนึ่งในผู้สูญหาย จุด ธูป บอก กล่าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เปิดทางชุดค้นหาเจอตัวจ่าบูม ซึ่งน้าชายบอกว่า ครอบครัวเองมั่นใจว่าจ่าบูมมีชีวิตอยู่ เพราะไม่มีลางสังหรณ์ หรือสัมผัสได้ว่าหลานชายเสียชีวิต จึงเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง หลานชายอาจจะติดอยู่กับเกาะตามแก่งต่าง ๆ หรือมีเรือประมง เรือสินค้าช่วยไว้ไปออกน่านน้ำ แต่ยังติดต่อไม่ได้ ตอนนี้ครอบครัวภาวนาให้เป็นแบบนั้น ส่วนตัวมองว่าวันนี้เข้าสู่วันที่ 6 ในการค้นหาแล้ว แต่การปฎิบัติหน้าที่การค้นหายังเป็นไปอย่างล่าช้า ครอบครัวผู้สูญหายมาถึงที่ท่าเทียบเรือแต่เจ้าหน้าที่แทบยังไม่ค่อยมา เรือลำต่าง ๆ ก็ออกปฎิบัติหน้าที่อย่างล่าช้าเพราะทุกวินาที คือความสำคัญ คือความหวังของครอบครัวผู้สูญหาย จึงอยากให้กองทัพเรือปฎิบัติงานโดยเร็ว
ทั้งนี้น้าชายของจ่าบูมบอกว่าจริง ๆ ครอบครัวมีแผนจะไปเที่ยวปีใหม่กันที่จังหวัดนครนายก จองบ้านพักไว้ 3 หลัง ซึ่งหลานชายอยากไป แต่กลับมาเจอเหตุการณ์นี้ก่อนส่วนตัวก็หวังว่าจะได้ไปเที่ยวปีใหม่กันพร้อมหน้าเหมือนเดิม ซึ่งทางรีสอร์ตที่จองไปก็ติดต่อกลับมาบอกว่าให้มาฉลองเจอตัวหลานชายที่นี่ได้เลย รีสอร์ตจะไม่คิดค่าบริการใด ๆ เลยทั้งสิ้น ขอให้เจอจ่าบูมอย่างปลอดภัยเท่านั้น
เช่นเดียวกับครอบครัวของจ่าท็อป จ่าตรีศุภกิจ ทิวาลัย หรือจ่าท็อป ป้าและลุง ก็มาจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครอง และเปิดทางให้หลานชาย เพราะวันเกิดเหตุ หลานชายโทรมาบอกตอน 2 ทุ่มกว่าว่าเรือจะล่มตนเองก็ตกใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไงจนข่าวออกมาตอนดึกว่าปลอดภัย ตนเองจึงสบายใจและนอนต่อจนมีคนมาบอกว่า ไม่มีชื่อหลานชายที่ได้รับการช่วยเหลือ ยอมรับว่าไม่สบายใจมาก และเพิ่งเดินทางมาจากกำแพงแสนเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.65) สมทบกับพ่อของหลานชายที่มาจากชลบุรี ส่วนตัวลุงกับป้าเลี้ยงดูจ่าท็อปตั้งแต่ 4 ขวบ ส่งเสียให้เรียนหนังสือจนสอบเข้าโรงเรียนนายเรือชุมพลจนเข้าบรรจุที่เรือสุโขทัย ตอนนี้ภาวนาให้หลานกลับมาอย่างปลอดภัยเพราะลุงกับป้า และพ่อ ห่วงมาก ๆ