รัฐบาลเชิญชวนประชาชน และกลุ่ม 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเที่ยวปีใหม่ ลดโอกาสติดเชื้อ อาการรุนแรง และเสียชีวิตจากโควิด-19
วันที่ 25 ธ.ค.65 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ขณะที่สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยยังคงพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น จึงเชิญชวนให้ประชาชน ผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้วเกิน 4 เดือน ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกัน ก่อนจะถึงเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และสร้างความอุ่นใจให้คนในครอบครัวและคนรอบข้าง ว่าจะได้รับความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยสามารถเข้ารับวัคซีนที่โรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้นโยบายให้ทุกแห่งให้มีจุดที่พร้อมให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่ม 608 หรือผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ควรต้องเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์และรับเข็มกระตุ้นเมื่อครบระยะเวลา เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต หากเกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่จะต้องรอรับบุตรหลานในช่วงเทศเทศกาลปีใหม่นี้ หากเกิดการติดเชื้อ การฉีดวัคซีนจะช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้เกือบ 100% ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขล่าสุดได้ ระบุว่า กลุ่มผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด19 ขณะนี้คือ กลุ่ม 608 (ร้อยละ 95) และทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือน
ในส่วนของเด็กกลุ่มอายุ 6 เดือน-4 ปี ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ผู้ปกครองสามารถนำเด็กฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคอื่น ๆ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันได้ เช่นเดียวกัน
“เทศกาลปีใหม่มีหลายกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงสังสรรค์ กิจกรรมเฉลิมฉลอง กิจกรรมรวมญาติ รวมไปถึงการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาท โดยเฉพาะการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ควรป้องกันตนเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด มีคนจำนวนมาก”น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า