ตร.นำหมายศาลบุกค้นเหมืองขุดบิตคอยน์ พบแอบใช้ไฟหลวง 9 เดือน ตรวจยึดอุปกรณ์เพียบ เร่งล่าเครือข่าย
บุรีรัมย์ ตร.นำหมายศาลบุกค้นเหมืองขุดบิตคอยน์หลังพบแอบใช้ไฟหลวง 9 เดือนยึดอุปกรณ์เพียบเร่งหาตัวผู้กระทำผิด
ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำหมายศาลบุกค้นเหมืองขุดบิตคอยน์โผล่กลางเมืองนางรอง หลังพบแอบต่อตรงใช้ไฟหลวงนาน 9 เดือน ยึดอุปกรณ์เพียบพบชื่อ “เฮียชัย” บนกล่อง
(25 ธ.ค.65) พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เตรียมพล บุญกองชาติ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.นางรอง นำกำลังชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนางรอง นำหมายศาลจังหวัดนางรอง เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังพบมีการลักลอบต่อตรงใช้กระแสไฟฟ้าของหลวงนานถึง 9 เดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท จึงเชื่อว่าน่ามีการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมาย
โดยการนำหมายศาลเข้าตรวจค้นครั้งนี้ก็ได้มีตัวแทนผู้ให้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ร่วมนำตรวจค้นด้วย ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 คูหา ไม่พบมีผู้อาศัยอยู่ภายในแต่อย่างใด สภาพด้านในค่อนข้างรกมีฝุ่นคละคลุ้ง ชั้น 1 พบมีการลากโยงสายไฟที่ลักลอบเชื่อมต่อตรงมาจากเสาไฟฟ้า เมื่อขึ้นไปบนชั้น 2 ก็พบมีการต่อเติมเป็นห้องทึบจำนวน 2 ห้อง ห้องแรกพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประมาณ 60 ชุด รวมถึง Notebook และตู้ควบคุมไฟฟ้า เราเตอร์ Wi-fi สำหรับเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต และกล้องวงจรปิด ส่วนอีก 1 ห้องเป็นห้องควบคุมพัดลมจำนวน 4 ตัว ทั้งยังพบกล่องกระดาษลักษณะเหมือนใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งระบุชื่อส่งถึง “เฮียชัย” ที่อยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ เชื่อว่าเป็นของเครือข่ายธุรกิจบิตคอยน์ พร้อมทั้งได้ทำการรื้อสายไฟที่แอบพ่วงใช้ไฟหลวงออกทั้งหมดด้วย
โดยเจ้าหน้าที่จะนำอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบที่โรงพัก พร้อมจะได้รวบหลักฐาน และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ส่วนที่ปรากฏชื่อ “เฮียชัย” อยู่บนกล่องพัสดุนั้นก็ได้เรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่ รวมถึงจะเรียกผู้เช่าอาคารพาณิชย์คูหาดังกล่าวมาสอบปากคำด้วย เพื่อเป็นข้อมูลในการสาวหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านที่เช่าตึกแถว ใกล้ห้องที่ลักลอบเปิดเหมืองขุดบิตคอยน์ดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ภรรยาได้มาเปิดร้านค้าเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 65 ก็ไม่เคยเห็นมีใครเข้า-ออกอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 คูหาดังกล่าวเลย แต่เท่าที่เห็นป้ายก็คิดว่าเขาอาจจะมาทำธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือหรือไม่ แต่ถ้าขายมือถือก็แปลกเพราะไม่เคยเห็นเปิดหน้าร้านเลย จึงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาทำธุรกิจอะไร