สนธิญา ยื่นยุบพรรคเพื่อไทย กรณีอุ๊งอิ๊งค์ลงอินตราแกรมกับทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษ ผิดข้อห้าม พรบ.พรรคการเมือง
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย กรณี "อุ๊งอิ๊งค์" ลงอินตราแกรม กับ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักโทษและผู้ต้องหาหนีคดี อันเป็นการฝ่าฝืน ข้อห้าม พรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 44 45 28 29 ความผิดตามมาตรา 92(3)(4)
นายสนธิญา กล่าวว่า วันนี้ในประเด็นแรกขอแสดงความเห็นกรณีที่มีการตั้งฉายารัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี "แปดเปื้อน" แต่ไม่ได้หมายความว่าแปดเปื้อนเรื่องทุจริต คอรัปชั่น หรือโกงกิน แต่อาจจะแปดเปื้อนในเรื่องของการตีความ ประเด็นของการดำรงตำแหน่งครบแปดปีหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ก็จบไปแล้วผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว
สำหรับการมาร้อง กกต.วันนี้เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไต่สวนวินิจฉัยและพิจารณา กรณีที่ อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ไปพบดร.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อที่ฮ่องกง ที่ทำไมไม่ร้องก่อนหน้านี้เพราะ ประการแรก อุ๊งอิ๊งค์ ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ประการที่สอง อุ๊งอิ๊งค์ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาประธานการด้านมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ของพรรคเพื่อไทย ประการที่สาม อุ๊งอิ๊งค์ ไม่ได้เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย และประการที่สี่ อุ๊งอิ๊งค์ เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
การที่เป็นพ่อลูกตนเข้าใจว่าตัดไม่ได้แต่เรื่องของกฎหมายต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ว่าด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 45
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับกันว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และหนีไปอยู่ต่างประเทศ และมีคำตัดสินออกมาแล้ว การที่อุ๊งอิ๊งค์ ซึ่งมีตำแหน่งในพรรค ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พรก.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 45 และการที่ ดร.ทักษิณ มีการไลฟ์ผ่านมาประเทศไทยทุกๆวันอังคารนั้นคือการที่ก่อกวน ถ้าท่านบริสุทธิ์ ยุติธรรม เชื่อมั่นในความสุจริตของตัวเองก็ต้องกลับมาประเทศไทยเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ยื่นยันว่าที่มายื่นให้กกต.ตรวจสอบ อุ๊งอิ้ง ในวันนี้ไม่ได้ในฐานะที่เป็นพ่อลูกกับดร.ทักษิณ แต่มายื่นเพราะ อุ๊งอิ๊งค์ มีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความคาบเกี่ยวกับ พรก.พรรคการเมือง ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย