หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เข้าช่วยเหลือยายวัย 69 ปี มีอาการคล้ายถูกวิญญาณสิงร่าง หลังลูกสาวทนเห็นแม่ทรมานไม่ไหว

จากกรณีที่หมอปลาได้รับเรื่องร้องเรียน พร้อมกับคลิป จากลูกสาว ร้องให้ช่วยเหลือแม่ ที่มีลักษณะคล้ายถูกผีเด็กเข้าสิง หลังนำกุมารที่เลี้ยงไว้ไปลอยถ่วงน้ำ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ หมู่บ้านสมฤทัยวรรณ 3 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.อยุธยา โดยภาพในคลิปเป็นภาพของคุณเเม่ของผู้ร้องเรียน มีลักษณะผิวสีดำ ท้องมาน กำลังนั่งทานข้าวอยู่ โดยลูกสาวมีการสอบถามเเม่ว่าหิวเหรอ เเม่ก็บอกว่า ไม่ได้กินข้าวตั้งเเต่เที่ยง

ล่าสุดวันนี้ทีมข่อง 8 พร้อมด้วยหมอปลา ได้เดินทางลงพื้นที่ หมู่บ้าน แห่งหนึ่ง ต.อุทัย อ.อุทัย จ.อยุธยา เเละได้พบกับ นางสาว อี๊ด(นามสมมุติ) ลูกสาวของยายสวย (นามสมมุติ) อายุ 69 ปี ยายที่มีอาการคล้ายถูกผีเข้าสิงร่าง

โดยนางสาว อี๊ด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เเม่ของตน พักอาศัยอยู่กับพ่อ เเละน้องชายของตนที่จังหวัดปทุมธานีและมีอาชีพค้าขาย เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว น้องชายของตนได้ไปที่ต้นโพธิ์หรือวัดอะไรสักอย่าง ก่อนจะไปเก็บเอารูปปั้นกุมารทอง เด็กผู้ชาย มาไว้ที่บ้าน โดยเอามาบูชา โดยไม่ได้ทำพิธีอัญเชิญให้ถูกต้อง เพื่อให้ค้าขายร่ำรวย มีการเรียกกินข้าวตามปกติ เเต่ประมาณ 1 เดือนต่อมา อยู่ๆ กุมารทองที่อยู่บนหิ้ง ก็คอหักเเละตกลงมาที่พื้น เเต่ที่น่าประหลาดไปมากกว่านั้นคือ หัวกุมารอยู่บนหิ้ง ส่วนตัวตกลงมาที่พื้น ทางด้านเเม่เเละน้องชายก็ไม่ได้สนใจอะไร จับเอาโยนทิ้งน้ำไป โดยไม่ได้ทำพิธีขอขมา ซึ่งเวลาผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรแปลกไป จะมีก็คือเเม่เริ่มมีอาการป่วย ท้องโตขึ้น เมื่อไปหาหมอ ก็บอกว่าเป็นโรคท้องมาน มีน้ำในท้องเยอะ ต้องเจาะเอาน้ำออกเท่านั้น

ต่อมา เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ตนเองได้รับแม่และพ่อกลับมาอยู่ที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยเช่าห้องพักแห่งหนึ่งให้พ่อกับเเม่อยู่ด้วยกัน ห่างไปจากบ้านหลังนี้ประมาณ 2 ซอย ค่าเช่าเดือนละ 1,200 บาท เเต่เเม่อยู่ไปได้ ประมาณ 2 สัปดาห์ เเม่ก็หกล้มจนต้องเข้ารพ. เมื่อออกจากรพ. ตนก็รับเเม่กับพ่อมาอยู่ที่บ้าน โดยปล่อยห้องเช่าทิ้งไป ซึ่งตนมาทราบภายหลังว่า เเม่ติดโควิด-19 มาจากรพ. เเละนำมาติดพ่อที่นอนป่วยติดเตียงด้วย ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา

โดยเมื่อเเม่มาอยู่ที่บ้านของตน ก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยจะมีอาการคล้ายกับเด็ก ตั้งเเต่ช่วงเวลาเย็นๆ จนถึงเวลาช่วงกลางคืนประมาณ 01.00-02.00 น. ก็ร้องอยากจะกินขนมตลอดเวลา หรือบางคืนจะได้ยินเสียงกินขนมตลอด ในช่วงคืนวันพระ เเม่ก็ลุกขึ้นนั่งเอง ทั้งๆ ที่ปกติจะต้องคอยประคองเเม่ลุกนั่ง บางคืนก็จะนอนหัวเราะ อีกทั้งยังเคยบอกว่า มองเห็นวิญญาณพ่ออยู่ในบ้าน ยังไม่ไปไหนอีกด้วย โดยเเม่มีอาการเเบบนี้มานานประมาณ 3 สัปดาห์เเล้ว ทำให้ทุกคนในบ้านหวาดระเเวงกันไปหมด

อีกทั้งยังบอกกับตนด้วยว่า “อยู่ที่หอพัก อดมาก หิวมาก อดมานานเเล้ว ขอขนมกินหน่อย” ซึ่งพฤติกรรมของเเม่เปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่ไม่เคยขอกินขนมเลย เเต่เเม่ก็กินขนม เเละกินข้าวจุมาก หวงขนม ใครไม่ให้ขนมหรือมาเเย่ง จะนั่งร้องไห้เหมือนเด็ก หากตนดุ เเม่ก็จะก้มหน้า ก่อนจะเงยหน้ามายิ้ม หลังจากตนบอกว่าจะให้กินขนม ลักษณะเหมือนเด็กน้อย บางครั้งก็จะตบมือดีใจเวลาเห็นขนมเยอะๆ พร้อมบอกว่าอุ๊ย ทำไมขนมเยอะเเยะขนาดนี้” หลานที่เล่นคอมอยู่บนบ้านก็ได้ยินเสียง บางครั้งเเม่ก็มองตาเหลือก ตาขวางใส่ตน ซึ่งเเม่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตนจึงคิดว่า เเม่ถูกผีหลายตนเข้าสิงหรือไม่ ซึ่งเเม่ไม่รู้ตัว เเม่จะเถียงพวกตนว่า เเม่ไม่ได้เป็นอะไร

ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ข้อ

1. ผีเด็กกุมารที่เคยเลี้ยง เเล้วคอหัก จนเเม่เอาไปทิ้งน้ำมาเข้าสิงเเม่
2. ผีเด็กที่ตามมาจากหอพักในช่วงเเม่ล้มเเล้วร่างกายอ่อนเเอ ทำให้มีผีมาสิงสู่
3. ปอบเชื้อ เพราะ ทางญาติของเเม่ที่ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา มีการเล่นของกันมาก่อน

ในเรื่องของปอบเชื้อ พี่น้องของเเม่เคยรับสืบทอดกันมาก่อน ซึ่งหากร่างกายเน่าจนไม่ไหวเเล้ว ปอบก็จะมาเข้าญาติที่เป็นผู้หญิงอีกคน สืบทอดทายาท ปกติเเม่ของตนก็นับถือของพวกไสยศาสตร์อยู่เเล้ว ทั้งกุมาร ปลัดขิก ขอนไม้เก่าๆ เเต่เเม่ก็ไม่ได้ดูแลบูชาอะไรดีขนาดนั้น หากไม่เอาเเล้วก็ทิ้งไปเลยเฉยๆ ตนเองก็กังวลในเรื่องนี้เหมือนกัน เคยมีพระทักว่ามันเป็นเรื่องของเวรกรรม ช่วยอะไรไม่ได้

ตนเคยพาเเม่ไปหาหมอเเล้ว หมอวินิจฉัยว่า ทุกอย่างปกติ สมองปกติ ไม่ได้หลงลืมอะไร เเต่เเม่ท้องโต ท้องมาน มีน้ำในท้อง ตนจึงอยากจะให้หมอปลาเข้ามาช่วยดูหน่อย ว่าบ้านหลังนี้มีผีจริงหรือไม่ เเล้วพ่อยังอยู่ในบ้านหรือไม่

ต่อมาเหมอปลาได้เดินเข้าไปในบ้าน เเละเริ่มมีอาการเเย่ เหมือนจะอ้วก โดยบอกว่า “พอเข้ามาเเล้วรู้สึกเเย่เลย ตนสัมผัสได้ทั้งกลิ่นเเละดวงวิญญาณ ” ก่อนยายสวยจะบอกกับหมอปลาว่า “ช่วยด้วย มีอะไรก็ช่วยด้วย” ก่อนหมอปลาจะเกิดอาการอยากอาเจียน น้ำตาไหล หาว เเละสอบถามอาการยายสวยว่าทรมานหรือไม่ ยายสวยก็ตอบว่า ก็ปกติ เเต่การกินเปลี่ยนแปลงไปหลังจากหกล้ม ก็ชอบกินเเต่ของหวาน ของเก่าๆ ที่เคยกินก็ไม่ชอบ เเต่ก่อนตนเดินได้ เมื่อก่อนท้องไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้”

หลังจากนั้นหมอปลาก็ขอดูหน้ายายรวย ขอให้ยายสวยเปิดเเมสก์ออก ยิ่งทำให้หมอปลายิ่งอยากอาเจียนมากขึ้น ก่อนจะสอบถามอาการของยายสวยจากลูกสาวอีก ครั้งว่า “กลางคืนไม่ได้นอนเลยใช่หรือไม่” ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามยายสวยว่า เป็นยังไงบ้าง ยังอยากกินขนมอยู่หรือไม่ เเต่ยายสวยบอก “อิ่มเเล้ว ยังไม่ได้อยากกินอะไร ตอนนี้ลูกซื้อขนมมาให้กินเเล้ว ตนจะอยากกินขนมเฉพาะตอนเย็นเเละตอนกลางคืน ตนชอบกินขนมข้าวโพดทอดกรอบ ไม่ชอบน้ำแดง เเต่ถ้าลูกไม่ซื้อขนมให้ ตนก็จะเสียใจ

ส่วนกุมาร ตนเคยรับมาบูชาจริง ตอนนั้นก็ขายของดี ก่อนที่คอกุมารจะหักส่วนลูกชายก็ได้เอาไปทิ้งแต่ตนไม่รู้ว่าเอาไปทิ้งที่ไหน เเละค้าขายไม่ดีอีก เเต่ก็น่าจะคอหักเเล้วตกน้ำเเถวนั้นเอง ตนเป็นคนค้าขาย ไม่ได้ทันสังเกตว่า หัวอยู่บนหิ้งไหม / ตอนที่ตนอยู่หอพัก ตนฝันเห็นลูกชายกินเสือ 11 ตัว โดยในความฝันเห็นชายกัมพูชามาบอกว่า หิวจะตายเเล้ว ขอของกินหน่อย เมื่อตนตื่นขึ้นมาเเล้ว ก็บอกว่าจะเเก้บนให้ เเต่หลังจากตนก็สะดุดเสื่อล้ม ตนก็ไม่รู้ว่ามีผีตามมาหรือไม่ ตนเห็นเเต่สามี ที่คิดถึงเพราะรักเขา ตนไม่เคยเห็นผีตนอื่น

ตนอยากจะขอให้หมอปลามาช่วยดูว่ามีผีหรืออะไรมาเเอบแฝงอยู่ในร่างกายตัวเอง หากมีผีมากวนก็ขอให้ช่วยไล่ไป

ต่อมาหมอปลาได้บอกให้ลูกสาวของนางสวย นั่งขาชิดกับเเม่ เเละให้จับมือเเม่ไว้ ก่อนหมอปลาจะจับไปที่หน้าท้องของนางสวย พร้อมกับถามนางสาวอี๊ดว่า หากรู้สึกชา อุ่นหรือเย็น หรือเป็นเหน็บที่เท้าให้รีบบอก ซึ่งนางสาวอี๊ดก็บอกว่าเริ่มมีอาการเป็นเหน็บที่เท้าซ้ายเเละขวา ก่อนหมอปลาจะบอกให้ลองยกขา เเต่นางสาวอี๊ดเริ่มยกเท้าไม่ขึ้น เเต่เมื่อหมอปลาเอามืออกจากท้องนางสวย นางสาวอี๊ดจะยกเท้าขึ้นได้

โดยหมอปลาอธิบายว่า เหตุการณ์ที่เกิดนี้ เป็นเพราะ ตนเองจับไปที่ท้องของนางสวย ทำให้ผีวิ่งผ่านร่างไปยังลูกสาว ซึ่งมีวิญญาณหลายตัวสิงเเม่อยู่ ซึ่งหากเอามือออกผีก็จะกลับมาที่ท้องของนางสวย

จากนั้นหมอปลาได้เรียกทีมข่าวและนางสาวอี๊ด มาปรึกษาและพูดคุยถึงแนวทางการรักษา โดยหมอปลาบอกนางสาวอี๊ดว่า สิ่งที่อยู่ในร่างกายแม่เป็นสัมภเวสีหลายตนที่อาศัยร่างอยู่ วิธีการรักษาคือการสวดปลดปล่อยสัมภเวสีออกจากร่าง แต่ว่าการสวดปลดปล่อยจะทำให้นางสวยเสียชีวิตไปด้วย จึงอธิบายให้ลูกเข้าใจ เพื่อที่จะเข้าไปคุยและสอบถามกับแม่ว่าแม่ยินดีที่จะให้ทำพิธีดังกล่าว หรือไม่

หลังจากนั้นนางสาวอี๊ดได้เข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับแม่ ว่าถ้าหากหมอปลาทำพิธีดังกล่าวให้แล้ว แม่จะได้ไปอยู่กับพ่อนะ (คือแม่จะเสียชีวิตตามพ่อไป เพราะพ่อเสียชีวิตแล้ว) พอนางสวยได้ทราบถึงกับช็อก และถามลูกว่า จะทิ้งแม่แล้วหรอลูกสาวจึงบอกว่าไม่ได้ทิ้ง ให้แม่เป็นคนเลือกเอง แม่จึงบอกว่าแม่ยินดีให้ทำพิธีให้ แต่ขอให้ทำหลังจากที่ทำบุญร้อยวันปู่ผ่านไปก่อน ซึ่งนางสาวอี๊ด จะเดินทางไปทำบุญร้อยวันปู่วันนี้ที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะเดินทางกลับมาอีกครั้งปลายปี ซึ่งแม่และลูกได้ขออโหสิกรรมให้กัน และนางสวยได้ให้เรียกหลานๆ มาขออโหสิกรรมให้ด้วย

หลังจากนั้นหมอปลาได้ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เคสนี้เป็นเรื่องสลดใจตรงที่ “ผู้ป่วยคาดหวังให้หมอปลามาช่วย เพื่อให้หายจากอาการดังกล่าว” แต่พอหมอปลามาดูแล้ว ไม่สามารถช่วยให้หายได้ แต่จะเป็นการช่วยปลดปล่อยให้หายจากอาการทรมานตรงนี้ได้ ก็คือถ้าทำพิธีไปแล้ว ผู้ป่วยจะเสียชีวิตหลังจากนี้ ภายใน 14 วัน เพราะร่างกายผู้ป่วยตอนนี้ไม่ไหวแล้ว แต่ที่อยู่ได้เพราะพลังงานที่มาแฝงอยู่ในร่างกาย ทำให้มีกำลังและมีแรงอยู่ต่อ ถ้าหากสวดไล่พลังงานออกไปแล้ว ก็จะทำให้ร่างอ่อนแรง กินข้าวไม่ได้ แล้วสุดท้ายต้องเสียชีวิตไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าหากปล่อยไว้รับรองว่าผู้ป่วยจะทรมานอย่างแน่นอน เพราะหลังจากการสัมผัสตัวผู้ป่วยพบว่ามีพลังงานแฝงในร่างอยู่จำนวนมาก หมอปลาก็อยากจะช่วยให้หาย แต่ท้ายที่สุดแล้วอยู่ที่ตัวผู้ป่วยและครอบครัวจะตัดสินใจ เพราะหมอปลาไม่ได้บังคับ

ด้านนางสาวอี๊ด ลูกสาวยายสวย (ผู้ป่วย) บอกว่า ตนก็รู้สึกช็อก เพราะอยากให้หมอปลามาช่วยเหลือให้แม่หายจากอาการป่วย แต่พอทราบว่ารักษาไม่มีทางหายแล้ว และถ้าช่วยขับไล่สิ่งที่แฝงอยู่ในร่างกายออกไปจะทำให้แม่ตายก็เสียใจ แต่ที่เห็นแม่เป็นอยู่ทุกวันนี้แม่ทรมานมาก นอนไม่ได้ ร้องโอดครวญ ต้องลุกมาหาอะไรกิน ตนก็ไม่อยากให้แม่ทรมานแบบนี้ อยากให้แม่สบาย แต่ทั้งหมดอยู่ที่แม่ ว่าแม่จะพร้อมเมื่อไหร่ ซึ่งจากการพูดคุยรอปรึกษากันในครอบครัว และให้ผ่านงานทำบุญ 100 วันปู่สิ้นปีนี้ไปก่อน