จะไปนาซ่าในโบราณสถาน !! ชายสติไม่ดีแต่งเลียนแบบพร นั่งสมาธิ ออกบิณฑบาต ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

28 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านแจ้งพบพระปลอมนั่งสมาธิ และบ่นคนเดียวจะไปนาซ่ารวมทั้งเดินบิณฑบาต อยู่ในโบราณสถาน และในหมู่บ้านบริเวณวัดมเหยงคณ์และ วัดกุฎีดาวเขตพื้นที่. ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่และหน่วยงานเนื่องจากหวาดกลัว. ตำบล ไพลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. แต่งชุดใส่จีวรคล้ายพระเดินบิณฑบาตทุกเช้าประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาตอนแรกชาวบ้านลงเชื่อใส่บาตรไปแต่หลังๆเริ่มผิดปกติเนื่องจากคนที่แต่งกายคล้ายพระนั้นลักษณะแตกเหมือนคนไม่เต็ม และลักษณะผมยาว การห่มผ้าผิดปกติเหมือนไม่เรียบร้อยชาวบ้านหลายคนได้เดินไปถามแต่ปรากฏว่าผู้ที่แต่งกายห่มผ้าเหลืองบอกว่าตนไม่ใช่พระชาวบ้านจึงตกใจแจ้งยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากหลอกให้ใส่บาตรมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว และสอบถามไปสอบถามมาทราบว่าไปขโมยจีวรพระมาจากวัดกุฎีดาว ที่หลวงพ่อในวัดซักและตากอยู่และนำมาใส่เดินบิณฑบาตและมานั่งสมาธิในวัดซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถานและมีนักท่องเที่ยวไปมา

 

จึงแจ้งยังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพร้อมกับ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ทราบหลังจากนั้นจึงได้นำตัวไปเพื่อสอบถามพบว่ามาจากจังหวัดลพบุรีและมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของวัดกุฎีดาว ในตำบลไพลินอำเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและทราบว่าเป็นคนจิตไม่ปกติแต่คุยรู้เรื่องหลังจากนั้นทาง ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้นำตัวส่งไปที่บ้านเกิดจังหวัดลพบุรีแล้วแต่ในตัวก็พบบัตรประชาชนเช่นเดียวกัน

 

ด้านนายสุรยา. แสงเลิศฤทธิ์ อายุ 25 ปี ได้บอกว่าตนเองเห็นมาเกือบทุกวันจึงได้เข้าไปสอบถามพระ ที่อยู่ในวัด ซึ่งเป็นพระจริงได้บอกว่าที่เห็นนั่งอยู่นั่นเป็นพระปลอมนะจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนตนเองเห็นแล้วไม่สบายใจเนื่องจากจะเสื่อมศาสนารวมทั้งชาวต่างชาติมานักท่องเที่ยวจะดูไม่ดี รวมทั้งเช้าบางวันก็ออกทำท่าทางเหมือนพระมาบิณฑบาตแต่ก็มีชาวบ้านใส่บาตรให้ด้วยเพราะไม่รู้

 

ขณะที่ นางปริยาภรณ์มั่งมี. หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่ว ศูนย์ คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. ได้บอกว่าผู้ที่แต่งตัวเป็นพระนั้นได้ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าชอบแต่งชุดเป็นพระแล้วนั่งพูดอยู่คนเดียวตนจึงได้เข้าไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากนั้นจึงนั่งพูดคุยและสอบถามพบว่าผู้ที่แต่งตัวเป็นพระนั้นเป็นคนจิตไม่ค่อยดีและบอกว่าแต่งตัวพระเพื่อจะไปนาซ่าทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งเออออและพูดลักษณะเหมือนจะไปนาซ่าด้วยกันก็จะนำไปส่งเพื่อไปนาซ่าหลังจากนั้น จึงได้ตรวจสอบพบว่ามีทั้งโทรศัพท์และบัตรประชาชนดูได้ติดต่อทางญาติของผู้ที่ป่วยทางจิตและพบว่าก่อนหน้านั้นเคยเสพยามาและบวชมาน่าจะเกิดจากการเพี้ยนที่ติดตัวมาก่อนเนื่องจากญาติบอกว่าหายออกจากบ้านมานานแล้วประมาณ 1 หรือ 2 อาทิตย์จากนั้นจึงนำไปขึ้นรถไฟซึ่งอ้างกับผู้ที่ป่วยทางจิตซึ่งแต่งตัวเป็นพระบอกว่าจะนำขึ้นรถส่งไปนาซ่าถึงยอมไป หลังจากนั้นก็จะมีการประสานกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพฯต่อไป ซึ่งผู้ที่ป่วยทางจิตดังกล่าวอายุประมาณ 30 ปี