ผบช.น. ชี้แจงคดีผับจินหลิงพื้นที่ สน.ยานนาวา พร้อมยืนยันทำสำนวนคดีไม่ล่าช้า ไม่มีนอกใน รอดูผลทางคดีวันที่อัยการสั่งฟ้อง
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รอง โฆษก บช.น., พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.น. ได้ทำการแถลงชี้แจงในคดีผับจินหลิงพื้นที่ สน.ยานนาวา
โดย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของกระบวนการสืบสวนสอบสวนในคดีผับจินหลิง ว่า การที่ออกมาแถลงข่าววันนี้เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ในการปฏิบัติงานของตำรวจ ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
สำหรับการเริ่มต้นทำคดี จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ฝ่ายสืบสวนได้แกะรอยจากการข่าวที่ระบุว่าในพื้นที่เกิดเหตุมีการเปิดบ่อนการพนัน จำหน่ายยาเสพติด ในวันที่ปฏิบัติการนั้นเจ้าหน้าที่แบ่งชุดปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ รวบรวม และควบคุม หลายกลุ่มงานเพื่อควบคุมผู้ต้องหาตามจุดต่างๆทั้งตามห้อง ด้านในและนอกอาคารทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
แม้ระหว่างทางที่ดำเนินการจะพบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการคืนรถที่ตรวจยึดได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่รายนั้นได้เข้าสู่การสอบของคณะกรรมการสอบสวน นครบาล6 และดำเนินการเรื่อยมาจนแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามคดีนี้ถูกดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตนได้ทราบคำสั่งวันที่ 23 พฤศจิกายน หลังการตั้งคณะกรรมการ สิ่งที่ทำคือหารือถึงปัญหาที่พบจากที่กองบัญชาการนครบาล 6 เจอนำมาซึ่งการแก้ปัญหา เช่น ตรวจรถยนต์ การเข้าไปในสถานที่ไม่ได้ การตรวจพบอาวุธปืน ยาเสพติด ส่วนในประเด็นที่สงสัยว่าเหตุใดตำรวจเข้าไปตรวจค้นในอาคารวิปวัปคาร์วอช และตรวจด้านในรถยนต์ไม่ได้ เรื่องนี้ทางบช.น.ได้มีหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.อ.สราวุฒิ คนใหม่เข้าดำเนินการตั้งแต่วันที่ตรวจค้นและ 4 ธันวาคม มีหนังสือเร่งรัดให้ดำเนินการตรวจสอบ แต่ทัั้งนี้รายงานระบุว่าไม่สามารถตรวจรถได้ทุกคน และไม่มีรหัสเปิดประตู ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
แต่ในระหว่างนี้ บช.น. ทำหนังสือไปยังกรมการขนส่งทางบก และกรมศุลการกรเพื่อตรวจสอบหาเจ้าของรถยนต์ การนำเข้ารถต่างประเทศเพื่อให้เจ้าของรถเข้ามารายงาน จากนั้นมีคำสั่งจากเลขาธิการ ปปส. ให้ยึดอาญัติทรัพย์สินของกลางทั้งหมดไว้ชั่วคราว พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เพราะมีระเบียบ แต่ที่ผ่านมามีการทำความเขาใจในการทำงาน
พล.ต.ท.ธิติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเมื่อวานนี้ทั้งในอาคาร สำลีพันไม้ถาดไม้ เป็นข้อสงสัยว่า ทำไมไม่มีการจัดเก็บปล่อยทิ้งไว้ที่เกิดเหตุได้อย่างไร พนักงานสอบสวนชุ่ยมากขนาดนั้น เรื่องนี้ กล่าวว่า ในอาคารมีห้องคาราโอเกะ หลายห้องและเจ้าหน้าที่พบสิ่งของเหล่านี้พร้อมผู้ต้องหาแล้ว ตำรวจใช้จะหลักฐานส่วนนี้มัดตัวผู้ต้องหา เพราะเป็นวัตถุพยานใกล้ชิด และวันดังกล่าวมีการจัดเก็บจำนวนมากพอเชื่อมโยงกับคดีอื่นแล้ว ส่วนอาคารลีลาที่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่ตรวจ ส่วนนี้ในรายงานสอบสวนมีการตั้งข้อสงสัยไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน ฉะนั้นสิ่งที่ตรวจเมื่อวานจึงช่วยยืนยันว่ารายงานการสืบสวนที่มีอยู่ก่อนแล้วถูกต้อง
"ทั้งนี้ การจะกล่าวหาใคร มีโทษพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ตำรวจทำตามเอกสารทุกอย่าง อธิบายกระบวนการให้ฟังแล้ว ส่วนอุปสรรคการตรวจอาวุธ ในอาคารวิปวัปคาร์วอช ที่ตรวจค้นสองครั้ง ในครั้งแรก 26 พฤศจิกายน ยืนยันว่าเข้าไม่ได้ แต่คณะกลับมาประชุมและยืนยันว่าต้องตรวจเพราะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง กับผับจินหลิง จากนั้นการตรวจครั้งที่ 2 คือวันที่ 1 ธันวาคม ศาลให้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อตรวจตามกรอบเวลาที่เหมาะสม เพราะอาคารไม่มีเจ้าของแสดงตน ต้องหาพยานข้างเคียง สรุปแล้ววันแรกที่ค้นเจอยาเสพติด อาวุธ เจ้าหน้าที่บันทึกภาพเป็นหลักฐาน เรียร้อยแล้ว" พล.ต.ท.ธิติ กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธิติ ยังได้กล่าวยืนยันว่า พยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้สามารถดำเนินคดีผู้ทำผิดได้อย่างแน่นอน จากนี้ขอให้ติดตามผลการสั่งคดีของอัยการสูงสุดในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนต่อไป