"สร้างอนาคตไทย-ไทยสร้างไทย" จับมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง ยังกั๊กควบรวมพรรค ปัดต่อรองตำแหน่ง ด้าน "สมคิด" ลั่น ตำแหน่งนายก อยู่ที่ฟ้าลิขิต ย้ำ เล่นการเมืองมานาน ไม่มีทดลองงาน
พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคไทยสร้างไทย ที่นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างอนาคตไทย ร่วมพูดคุยหารือทิศทางการเมือง โดยทันทีที่แกนนำมาถึงร้านอาหาร Corner สุขุมวิท 26 ได้เข้าไปหารือในห้องอาหารก่อนออกมาร่วมกันแถลงข่าวในเวลาประมาณ 10.25 น.
โดยนายโภคิน กล่าวว่า ทั้งสองพรรคได้พูดคุยมาเป็นระยะๆ ในฐานะที่เป็นเพื่อนเก่า และเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่อดีต และต่างเห็นว่าบ้านเมืองเป็นปัญหา คิดว่า อำนาจเงิน อำนาจรัฐ ระบบราชการ ไม่ตอบสนองต่อประชาชน กลับไปตอบสนองผู้มีอิทธิพล นักธุรกิจสีเทา ตลอดเวลาที่มาผ่านมีแต่ความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินไปไม่ได้ จึงมองว่า หากปล่อยสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้ประชาชนไม่มีอนาคต ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงมาคุยกันหาทางออกให้ประเทศ ควรเอาจริงเอาจริงในการแก้ไขปัญหา และการร่วมแรงร่วมใจ โดยสิ่งแรกที่เห็นตรงกัน คือ มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ไม่เช่นนั้นจะไม่ทีทางให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีอำนาจได้อย่างแท้จริง เพราะไม่อยากเห็นทุกคนจำนนต่ออำนาจรัฐ อำนาจเงิน หากเริ่มต้นตรงนี้ได้ เรื่องอื่นจะตามมาเอง (การรวมพรรค)
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวและนายสมคิด เคยทำงานร่วมกันมาหลาย 10 ปี ในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์มา และเคยทำนโยบายที่สำคัญให้กับประเทศจนสำเร็จ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ดังนั้น ภารกิจครั้งนี้ คือ การสร้างพรรคการเมือง เพื่อส่งมอบประเทศไทยให้คนรุ่นต่อไป จึงมาหารือร่วมกันว่าจะร่วมงานการเมืองกันต่ออย่างไร ที่ไม่ใช่การแย่งชิงตำแหน่ง แย่งชิงอำนาจ โดยตกลงกันว่า จะพยายามแสวงหาทางออกให้บ้านเมือง และร่วมมือเป็นพันธมิตร ยุติความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
ส่วนนายอุตตม กล่าวว่า ความท้าทายที่เกิดขึ้น จึงต้องมาผนึกกำลังเป็นพันธมิตรเพื่อทำให้บ้านเมือง เพราะปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ใหญ่เกินกว่าที่คนไม่กี่คนจะมาแก้ได้ จึงต้องมา ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ
ขณะที่สมคิด กล่าวว่า ตลอดที่อยู่การเมืองมา 20 กว่าปี มีความตั้งใจทำงานมาตลอด และไม่เคยเห็นยุคใดที่การเมืองค่อนข้างย่ำแย่จนอดเป็นห่วงไม่ได้ ทั้ง เชิงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางการเมือง //การใช้ทรัพยากร เพื่อแย่งชิงผู้สมัครที่ทำอย่างโจแจ้ง มีการโยกย้าย มีการลาออกไม่เว่นแต่ละวัน //ความไม่สามารถในการบริหารภาครัฐ แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน //การสร้างความสามัคคี เพราะยังอยู่ในวังวนของความแตกแยกจนประเทศอื่นล้ำหน้าไทยไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าเสียใจ หากปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ก็จะถดถอย ประชาชนไม่ควรนั่งมองดูอย่างไม่มีทางออก หรือนั่งรอชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากไม่เปลี่ยนแปลง จึงคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องละวางในอัตตาแล้วมาช่วยกัน มาร่วมแก้ไขปัญหาให้ล่วงลุไปได้ โดยจากการหารือ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
นายสมคิด ยังย้ำว่า การเดินหน้าครั้งนี้ไม่มีการทดลองงาน โดยยอมรับว่า ที่จริงแล้วส่วนตัวไม่คิดทำการเมืองเพราะรู้สึกเหนื่อย แต่ที่มาทำ เพราะเห็นภารกิจที่สำคัญ คือ ต้องการสร้างพรรคการเมืองที่ดี เน้นการสร้างประเทศ ไม่เคยคิดเรื่องตำแหน่ง ขออย่าถามว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เรื่องตำแหน่งไม่สำคัญ เพราะได้มาทุกตำแหน่งแล้ว ส่วนตำแหน่งนายกฯ อยู่ที่ฟ้าลิขิต ฟ้าประทาน แต่สิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหาให้ประเทศให้ได้
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือแกนนำทั้งสองพรรคได้เข้าไปพูดคุยหารือภายในห้องอาหารอีกครั้ง ก่อนที่จะรับประทานอาหารร่วมกัน