เด็กๆ ชวนกันไปตกปลา วิ่งไม่คิดชีวิต เจอศพเกยตื้นจุดนั่งตกปลาประจำ พ่อแม่แจ้งตำรวจตรวจสอบ ผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวบุรีรัมย์ พบเงินติดตัวร่วมแสน
วันที่ 1 มกราคม 2566 พ.ต.ท.จิระเดช กันทะสาร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนจมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณสะพานคลองเพรียว ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงรีบไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัตนตรัยฯ สระบุรี แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลสระบุรี
ใกล้ที่เกิดเหตุ บนสะพานพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดู ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาด้านบน เพื่อให้แพทย์ชันสูตรเบื้องต้น แต่การเคลื่อนย้ายศพค่อนข้างลำบาก เนื่องจากทางขึ้นลงเป็นทางลาดชัน จึงต้องนำร่างผู้เสียชีวิตใส่เปลลอยน้ำข้ามมาอีกฝั่ง เพื่อนำขึ้นจากน้ำ
สอบถามชาวบ้านทราบว่า ก่อนหน้าที่จะพบศพ เด็กๆ ที่อยู่แถวนี้ ชวนกันไปตกปลา ซึ่งเป็นที่นั่งตกปลาเป็นประจำทุกวัน เมื่อเดินลงไปริมตลิ่ง สายตาเหลือบไปเห็นศพนอนเกยตื้นอยู่ในน้ำ ทุกคนต่างพากันตกใจกลัว วิ่งหนีไม่คิดชีวิต และรีบไปบอกพ่อแม่ว่าเจอศพคนตายในน้ำ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นพบศพเป็นผู้ชาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสายัน ตระกูลรัมย์ อายุ 48 ปี ชาวบุรีรัมย์ สภาพศพศีรษะและลำตัวเกยอยู่บนตลิ่ง น้ำท่วมถึงระดับใบหู ขณะที่ส่วนอื่นจมอยู่ใต้น้ำ ใส่กางเกงยีนสีดำสวมเสื้อลายสีดำ พบมีกระเป๋าคาดหน้าอกอยู่ มือทั้งสองข้างแนบหู มีรองเท้าถูกสอดไว้ที่ข้อมือด้านซ้ายทั้ง 2 ข้าง ลักษณะเหมือนถอดรองเท้าวิ่งหนีใครมา พบรอยถลอกตามร่างกาย ที่บริเวณไหล่ด้านขวามีบาดแผลเป็นรูลึกลงไปคล้ายถูกเหล็กแหลมแทง ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 92,000 บาท สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดเดือนตุลาคมอีกจำนวนหลายฉบับ นอกจากนี้ ยังพบเงินสกุลเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง เหรียญประมาณ 200 บาท พาสปอร์ต และบัตรประจำตัวประชาชน จากสอบถามเบื้องต้นไม่เคยมีใครรู้จักหรือพบเห็นผู้เสียชีวิตมาก่อน ส่วนศพผู้เสียชีวิตจะส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.นครนายก เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พ.ต.ท.จิระเดช กันทะสาร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนในพื้นที่ ซึ่งจะสอบปากคำเด็กๆ ที่พบศพ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง และให้ชุดสืบสวนออกหาข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตรู้จักหรือทำธุรกิจอะไรในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากพบเงินสดเป็นจำนวนมาก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป