ชาวบ้าน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบพระเมา แจ้งเจ้าหน้าที่จับสึกได้วันเดียว ดอดกลับมาขอจีวรคืน แล้วแต่งกายเป็นพระเผ่นหายไป
วันที่ 5 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่าเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) ตำรวจ สภ.บ้านดุง พร้อมด้วยนายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านบ้านหัวฝาย ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่ามีพระเมาที่หน้าวัดในหมู่บ้านบ้านหัวฝาย เดินโซซัดโซเซ เป๋ไปมา ในมือยกขวดเหล้าดื่มกิน โดยไม่เกรงใจสายตาประชาชน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
พบพระภิกษุเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาที่วัดห้วยปลาโด ให้พระครูสุวรรณจันทสาร เจ้าคณะตำบลบ้านดุง เขต 1 ก่อนทราบชื่อพระรูปนี้คือ พระมณี อายุ 54 ปี ตรวจสอบใบสุทธิพบว่าเป็นพระจริง บวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
สอบถามพระมณี ที่มีอาการเมาหนัก พูดจาลิ้นรัว ได้ความว่า ยอมรับเมาจริงตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะดื่มหนักไปหน่อย โดยพูดไปก็หัวเราะไป และยอมสึกแต่โดยดี เพราะหลักฐานกลิ่นเหล้าและการเดินโซซัดโซเซด้วยอาการเมาเหล้าอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเป็นพระภิกษุเมาและประพฤติตนวุ่นวาย หลังจับไปให้พระครูสุวรรณจันทสาร เจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยปลาโด ทำการสึก แล้วคุมตัวไปเข้าห้องควบคุม สภ.บ้านดุง ไว้ชั่วคราว
ล่าสุด พระครูสุวรรณจันทสาร เจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยปลาโด ได้แจ้งมายัง แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดตว่า อดีตพระมณีได้กลับมาที่วัดอีกแล้ว โดยมาขอจีวรและเครื่องอัฐบริขาร บาตร ย่าม และห่มจีวรเดินออกจากวัดไปแล้ว โดยพระครูสุวรรณจันทสาร บอกว่า หลังเขาได้มาขอจีวร บาตร กลด อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำแบบนี้ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ ไม่ถูกครรลอง พระต้องมีพระอุปัชฌาย์บวชให้ถึงจะถูกต้อง และเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์ แบบนี้เรียกแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ จากนี้ไปแล้วแต่โยมจะจัดการแล้วกัน เพราะถือว่าเขาไม่ใช่พระสงฆ์แล้ว
โดยตลอดทั้งวันผู้สื่อข่าวได้ติดตามในตัว อดีตพระมณี ในพื้นที่ อ.บ้านดุง แต่ยังไม่เจอตัว คาดว่าคงเดินทางออกนอกพื้นที่แล้ว โดยขออาศัยขึ้นรถกับประชาชนที่ขับผ่านไปมาตามถนน