ฟาดเดือด ! "วิโรจน์" ลั่น "ป้าย 33 ล้าน" ถ้าตอบไม่เคลียร์จาก "บางซื่อ" อาจมีคนต้องไป "บางขวาง"
7 ม.ค. 66 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 33 ล้านบาท โดยระบุว่า "ป้าย 33 ล้าน ถ้าตอบไม่เคลียร์ จากบางซื่ออาจมีคนต้องไปบางขวาง"
จากการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 33 ล้านบาท แม้ว่า รฟท. จะชี้แจงว่าไม่ได้เปลี่ยนแค่ 56 ตัวอักษร เพราะป้ายมี 2 ฝั่ง จึงทำให้ตัวอักษรมีทั้งสิ้น 112 ตัวอักษร ไม่ใช่ 56 ตัวอักษร และยังมีเนื้องานประกอบอื่นๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม พอคิดเฉลี่ยใหม่แล้วตกตัวอักษรละเกือบ 300,000 บาท ก็ถือว่าแพงอยู่ดี
และยังมีการชี้แจง ที่ผมคิดว่าเป็นการตอบที่ไม่ตรงคำถาม และบางการชี้แจง ยังเป็นการชี้แจงที่ไม่สมควรอีกด้วย การที่ รมว.คมนาคม ตั้งคณะกรรมการสอบ ตามคำสั่งที่ 5/2566 โดยขีดเส้น 15 วัน ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ผมขอแนะนำว่า อย่าไปเสียเวลาสอบในเรื่องขั้นตอนงานธุรการ และงานเอกสาร เพราะขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้นั้นถูกต้องอยู่แล้ว และเป็นการสอบที่ไม่ตรงกับประเด็นที่กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ จะมีข้อสรุปที่สามารถตอบคำถามของสังคมให้ได้อย่างน้อย 3 ประเด็น ดังต่อไปนี้
1. การที่ รฟท. ชี้แจ้งในเบื้องต้นว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้งาน คือ ปัจจุบันสังคมเขาไม่ได้ตั้งคำถามว่า รฟท. ดำเนินตามระเบียบขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ แต่สังคมสงสัยว่าทำไมราคามันถึงต้องแพงขนาดนี้ แล้วที่บอกว่าคำนึงถึงประโยชน์การใช้งาน ตกลงแล้ว “การเปลี่ยนป้าย” มันเกี่ยวอะไรกับการใช้งาน มันเกี่ยวกับการเดินรถไฟตรงไหน ประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากการเปลี่ยนป้าย
2. การชี้แจงว่า “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” เป็นชื่อพระราชทาน หากหวังว่าจะใช้คำชี้แจงนี้ในการหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ และการตั้งคำถามของประชาชน ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะการขอชื่อพระราชทาน นั้นต้องมีการวางแผน และมีกรอบเวลาในการพระราชทานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่า รฟท. จะทำป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” ให้เป็นป้ายถาวร เพื่อให้ต้องเสียเงินทำป้ายสองรอบทำไม และการเอาประเด็นของชื่อพระราชทาน มาชี้แจงนอกจากจะเป็นการชี้แจงที่ไม่สมเหตุสมผลแล้ว จะด้วยความจงใจหรือไม่ก็ตาม การกระทำดังกล่าวยังเป็นการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกราะกำบังการตรวจสอบ ปิดปากประชาชน ซึ่งกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฯ อย่างไม่สมควร
3. สิ่งที่ รฟท. ควรชี้แจงให้ชัดๆ ก็คือ ทำไมโครงการเปลี่ยนป้ายที่มีมูลค่าสูงถึง 33,169,726.39 บาท (ราคากลาง 34 ล้านบาท) จึงต้องใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง การอ้างว่า มีเหตุ “จำเป็นเร่งด่วน” ก็ควรต้องชี้แจงในรายละเอียดว่า มันจำเป็นเร่งด่วนยังไง ถ้าไม่ทำป้ายใหม่แล้วจะกระทบกับการเดินรถไฟอย่างไร กระทบกับประชาชนตรงไหน และเหตุใดถึงต้องจ้างบริษัท UNIQ แบบเฉพาะเจาะจงด้วย บริษัทอื่นไม่สามารถทำป้ายแบบนี้ได้เลยหรือ ป้ายแบบนี้มันต้องใช้เทคนิคทางวิศวกรรมชั้นสูงขนาดนั้นเลยหรือ ยิ่งถ้าอ้างเรื่องชื่อพระราชทาน ยิ่งฟังไม่ขึ้นใหญ่ เพราะสถานีกลางบางซื่อ ได้รับพระราชทานชื่อเป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องปัจจุบันทันด่วน ที่ต้องเร่งรัดจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนในเร็ววันนี้ ไม่อย่างงั้น จากบางซื่อ อาจจะต้องมีคนไปบางขวางแทนก็ได้นะครับ