"คุณปู่ตายแล้วฟื้น" หลังญาติขอรับกลับบ้านจากภาวะสิ้นหวัง เตรียมงานศพแล้ว แต่กลับฟื้น พูดจารู้เรื่อง จำทุกคนได้ ล่าสุดหมอไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าพบหวั่นอาจติดเชื้อ

7 ม.ค. 65 ผู้สื่อรายงานว่าจากกรณีเหตุการณ์ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่อง นายประดิษฐ์ บุญทรง หรือคุณปู่อายุ 86 ปี ชาวตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยหลานสาวระบุว่า "ตายแล้วฟื้น" พร้อมข้อความว่าสภาพอาการของคุณปู่ที่ รพ.มหาราช อยู่ในสภาพที่ต้องใส่เครื่องช่วยชีวิต ไม่ตอบสนองพร้อมทั้งภาวะนาว่าขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง และ 3-4 วันให้หลังโพสต์ข้อความของหลานคนเดิมได้โพสต์อย่างดีใจสุดขีด พร้อมทั้งภาพของคุณปู่โดยบอกว่าตายแล้วฟื้น พร้อมระบุว่าปาฏิหารณ์มีจริงเพื่อนในเฟซบุ๊กต่างเข้ามาแสดงความยินดีจำนวนมาก

 

 

ล่าสุดที่บ้านของคุณปู่กลางสวนยางพารา ปรากฏว่าญาติไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกครอบครัว รวมทั้งผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ เนื่องจากแพทย์ รพ.ทุ่งสง ได้เตือนว่าไม่ควรที่จะให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่เนื่องจากเกรงการติดเชื้อที่อาจทำให้คุณปู่ประดิษฐ์ อาการทรุดลงอีก ทำให้ทุกคนระวังอย่างมากและปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลอื่นๆอีกแล้วเนื่องจากไม่สบายใจและเกรงผลกระทบอื่นๆที่จะตามมาภายหลัง

 

 

ขณะที่นายสุเทพ รัตนคช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้ามาติดตามข้อมูลในเรื่องนี้เช่นกัน เปิดเผยว่ามาถึงขณะนี้เหลือเชื่ออาการของคุณปู่ปกติ ทุกอย่างกลับมาทำงานปกติวานนี้หลังจากนำตัวออกมาจากรพ.มหาราช หยุดทำงานหมดแล้ว ไม่สามารถให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดได้แล้ว ตอนนี้กลับมาพูดจารู้เรื่อง จำทุกคนได้ รับประทานอาหารอ่อนได้ แต่ยังอ่อนแรงอยู่เท่านั้น

 

 

ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เป็นปาฏิหารณ์จริงๆแล้วคุณปู่ตัวแข็งหมดแล้ว นำคุณปู่ออกจากโรงพยาบาลมาทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมหมดแล้วเพื่อจัดการงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณี รดน้ำศพ แต่พอเข้าวัด คุณปู่กลับฟื้น ด้วยความดีใจลูกหลานถามว่ากลับบ้านไหมคุณปู่บอกว่ากลับหลังจากนั้น ได้พากันไปตรวจร่างกายที่ รพ.ทุ่งสง ยิ่งเหลือเชื่อไปอีกทุกระบบในร่างกายกลับมาปกติ ส่วนงานศพนั้นได้ยกเลิกไปอย่างดีใจท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคน

 

 

ขณะที่นายแพทย์สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางเจ้าหน้าที่สุขศึกษา รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ว่าโดยข้อเท็จจริงนั้นยังไม่สามารถบ่งชี้ทางการแพทย์ได้ว่าผู้ป่วยเสียชีวิต เนื่องจากการขอนำตัวผู้ป่วยกลับไปนั้นผู้ป่วยยังไม่เข้าข่ายการเสียชีวิตตามลักษณะการบ่งชี้ทางการแพทย์ โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ดำเนินการไปตามความประสงค์ของญาติที่จะขอนำตัวกลับบ้าน แต่ยืนยันว่าทางวิชาการทางการแพทย์นั้นการตายแล้วฟื้นไม่เคยมีปรากฏ ส่วนกรณีของคุณปู่นั้นหากมีอาการดีขึ้นขอแสดงความยินดีลูกหลานต้องเพิ่มความระมัดระวังในการติดเชื้อเนื่องจากร่างกายของคุณปู่ยังอ่อนแอมาก