ชัดมาก !! "ทนายษิทรา" เล่าละเอียดยิบ "อดีตรองนายกฯ" เล่นชู้เมียชาวบ้าน เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟแต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ เผยส่งลูกน้องมาขู่ฝ่ายสามี หวั่นถูกเอาชีวิต

จากกรณี "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุกรณีอดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกับภรรยาของคนอื่น ก่อนมีแง้มว่า อยู่ในยุครัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

 

9 ม.ค.65 "ทนายตั้ม" ได้แถลงข่าวเพิ่มเติมว่าเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่ "นาย ก." ผู้เสียหาย
เห็นว่าภรรยามีท่าทีเปลี่ยนไปจึงสังเกตพฤติกรรม เปิดโทรศัพท์ดูเจอข้อความและภาพโป๊ของ "ภรรยา"และ "อดีตรองนายกฯ ย." ทั้งคู่ที่ถ่ายเก็บกันไว้และเมื่อได้เห็นว่าผู้ชายคือใครก็ช็อกยิ่งกว่า เคยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เหตุน่าจะเกิดช่วงตุลาปี 2565

 

ต่อมา "นาย ก." ได้สอบถามว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะภรรยาไม่ยอมหย่า ตนจึงให้คำปรึกษาว่ากรณีนี้ไม่ใช่คดีอาญาแต่สามารถฟ้องเรื่องชู้สาวเรียกค่าทดแทนได้ทั้งภรรยาและชู้ ซึ่งได้มีการฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายไปเมื่อปลายปี

 

"ทนายตั้ม" ระบุด้วยว่าตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเป็นข่าว แต่นาย ก. ซึ่งฝ่ายสามี ถูกระรานข่มเหง มีชายฉกรรจ์มารอที่คอนโด มีการไปแจ้งความว่าหลอกลวงเงิน มีการนำชายฉกรรจ์มาล้อมที่โรงพัก ยิ่งทำให้กลัวไม่ได้รับความปลอดภัย จึงอยากให้ทำเรื่องนี้ให้สื่อรู้ถ้าหากลูกความตนเป็นอะไรไปก็เป็นคนนี้คนเดียวเพราะไม่มีศัตรูที่ไหน และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้คนทั่วไปได้รับทราบว่าไม่ควรทำอย่างนี้

 

ส่วนเรื่องที่ไม่สามารถบอกชื่อโดยตรงได้เพราะต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกฟ้อง แต่ใบ้ว่าเป็น "อดีตรองนายก" "เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย" ชอบตีกอล์ฟแต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์

 

ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนไม่ว่าจะเป็นแช็ต รูปภาพครบถ้วน

ส่วนการที่ตนเองเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ยืนยันว่าการที่ออกมาพูดเรื่องนี้คน ๆนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะ "อดีตรองนายกฯ ย." เคยเป็นสมาชิกพรรคเมื่อปี 2551 และไม่ได้อยู่เพื่อไทยตั้งแต่ปี 2561 ดังนั้งเรื่องเกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกันเพราะเกิดหลังจากบุคคลดังกล่าวได้ออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว