โฆษก ตร. ยันเอาผิดรถหรูพุ่งชนบนทางด่วนทุกข้อหาไม่ละเว้น
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุรถหรูเบนท์ลีย์ แซงซ้ายชนรถปาเจโร่ แล้วไปถูกรถดับเพลิงที่รีบไประงับเหตุชนซ้ำบาดเจ็บทั้งคัน 6 คน บนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ว่าพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและดำเนินคดีกับคนขับไปแล้ว พร้อมส่งไปตรวจเลือดว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดหรือไม่ คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะทราบผล พร้อมกันนี้ ยังย้ำว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนไม่ชักช้า
ส่วนผู้เสียหายได้มีการลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำไว้แล้ว พร้อมระบุเหตุการณ์ทุกอย่างอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตำรวจมีการเก็บภาพและคลิปไว้อยู่แล้วสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ซึ่งจะมีการรวบรวมหลักฐานและพิจารณาแจ้งข้อหาตามที่พฤติกรรมที่ปรากฏทุกอย่าง และจะเร่งรัดผลการตรวจเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม
นอกจากนี้ โฆษก ตร. ยังกล่าวย้ำว่าการตัดแต้มจราจรวันนี้(9ม.ค.)เป็นวันแรก โดยเฉพาะการตัดแต้ม20ฐานความผิดหลักที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามความหนักเบารวมถึงการฝ่าฝืนกฎจราจรจากที่มี 12 แต้ม หากตัดแต้มจนเหลือ 0 แต้ม ก็จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน ถ้ายังฝ่าฝืนก็จะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ แต่หากใน1ปี สามารถเข้าไปอบรมกับกรมขนส่งทางบกก็จะได้แต้มกลับคืนมา และหากภายใน1ปีนั้นครบกำหนด 1 ปี วันชนวันก็จะมีการคืนแต้มให้ 12 แต้มเท่าเดิม ส่วนการชำระค่าปรับก็ทำได้หลายช่องทางและสะดวกรวดเร็ว เช่น การชำระผ่าน E-banking เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าทุกอย่างไม่ได้หนักเกินไป และยังให้โอกาสให้ผู้ขับขี่ได้ช่วยกันคำนึงและเสริมสร้างวินัยจราจร