หลักเกณฑ์เรื่องการฟ้องชู้ของสามีและภรรยานั้นต่างกัน โดยกรณีสามีฟ้องชู้ เพียงแค่ชายอื่นมาล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาว ก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้แล้ว
วันที่ 9 ม.ค. 2566 หลังปรากฏเป็นข่าวดัง กรณีทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยว่า มีลูกความมาปรึกษาเรื่องที่ภรรยามีท่าทีเปลี่ยนไป จนไปพบหลักฐานการเป็นชู้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ทั้งภาพถ่ายเปลือยกายของทั้งคู่ ภาพคู่ตามสถานที่ต่างๆ และข้อความแช็ต ทำให้หลายคนสนใจข้อกฎหมายในการฟ้องชู้ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ต้องมีหลักฐานมากน้อยหรือชัดเจนอย่างไร
วันนี้ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 มีข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีฟ้องชู้ พร้อมตัวอย่างคำพิพากษาของศาลมาให้ทราบ โดยหลักเกณฑ์การฟ้องชู้ของสามีและภรรยานั้นต่างกัน ซึ่งนี่คือข้อกฎหมายกรณีสามีฟ้องชู้
หลักฐานการฟ้องชู้เบื้องต้น
1.สำเนาใบสำคัญการสมรส
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ฟ้องคดี
3.สำเนาใบเปลื่ยนชื่อของเรา หรือของคู่สมรส
4.ทะเบียนบ้านของผู้ฟ้องคดี
5.สูติบัตร (เฉพาะในกรณีมีบุตรด้วยกัน)
6.หลักฐานเกี่ยวกับอาชีพรายได้ของเราและคู่สมรส เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน
7.หลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของเราและคู่สมรส เช่น สำเนาใบปริญญาบัตร
8.หลักฐานเกี่ยวกับการมีฐานะทางสังคมของเรา และคู่สมรส เช่น การดำรงตำแหน่งนักการเมือง การประกอบอาชีพดารา หรืออาชีพที่มีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก
9.หลักฐานเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน
ทั้งนี้ หลักฐานบางอย่างไม่มีก็ยังไม่เป็นไร ยกเว้นอย่างเดียวคือต้องมีใบสำคัญการสมรส หรือหลักฐานการสมรส ถึงจะสามารถฟ้องได้
หลักฐานเกี่ยวกับการเป็นชู้ เช่น
1.หลักฐานการสนทนากันระหว่างชู้กับคู่สมรส ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก
2.หลักฐานรูปคู่ วิดีโอ ภาพถ่ายที่ได้จาการสืบชู้ ที่แสดงให้เห็นว่าตัวชู้กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน
3.หลักฐานการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ของคู่สมรส เช่น ใบเสร็จค่าที่พัก หลักฐานบันทึกการเดินทางจาก Google Map
4.หลักฐานการซื้อของให้กับระหว่างชู้กับคู่สมรส
5.หลักฐานการโอนเงินให้กันระหว่างชู้กับคู่สมรส
6.หลักฐานการถ่ายรูปของชู้ที่เป็นรูปเดี่ยว แต่อยู่ในสถานที่ของคู่สมรส หรือถ่ายรูปติดทรัพย์สินของคู่สมรส
7.พยานบุคคลที่รู้เห็นการเป็นชู้
ทั้งนี้ หลักฐานการเป็นชู้ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นแสดงว่าชู้กับคู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กัน
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522 การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือได้ว่าล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2528 จำเลยพา บ. ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณี แม้ บ. จะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณีกับจำเลย ก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกินภริยาโจทก์ไปในทำนองชู้สาว จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ และการที่จำเลยพาภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณีดังกล่าว ย่อมทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจ เกียรติยศ และชื่อเสียง ซึ่งไม่อาจคิดเป็นราคาเงินได้ การกำหนดค่าทดแทนให้เพียงใดย่อมแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี
ที่มา : สำนักงานพิศิษฐ์ ศรีสังข์ ทนายความ