กองทัพเรือ คาดใช้งบ 100 ล้าน กู้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง 12 บริษัทเข้าข่ายยกตัวเรือจากจากก้นทะเลได้ โดยไม่ตัดแยกชิ้นส่วน
มีรายงานข่าว คณะกรรมการพิจารณาแนวทางกู้เรือหลวงสุโขทัย ที่จมลงก้นทะเลที่ระดับความลึกราว 50 เมตร เขตพื้นที่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 19 ไมล์ทะเล ที่มี พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธาน ได้เตรียมประชุมคณะกรรมการเพื่อหาข้อสรุปในการเลือกบริษัท เข้าทำกู้เรือหลวงลำดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้มีบริษัทที่แจ้งความประสงค์เข้ามา 12 บริษัท ซึ่งเข้าเงื่อนไขที่กองทัพเรือต้องการ คือจะต้องรักษาสภาพเรือให้สามารถใช้งานต่อไปได้ โดยไม่มีการแยกส่วน หรือ ตัดชิ้นแยกเรือเพื่อนำขึ้นมา ประมาณการว่าจะใช้งบประมาณประมาณ 100 ล้านบาท ดังนั้นกองทัพเรือต้องดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง และนำเสนอกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณากรอบวงเงินต่อไป
บริษัทเอกชน ที่แจ้งเข้ามาต่างเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำเรือขึ้นมาโดยทั้งลำ โดยใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น เครน หรือการใช่ทุ่น เพื่อพยุงเรือ ซึ่งอุปกรณ์บางอย่างต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ อาจต้องใช้เวลาดำเนินการพอสมควร และในเบื้องต้นจากคำให้การของ ผู้บังคับการเรือ ยืนยันว่า ไม่มีลูกเรือ หรือผู้โดยสารคนใดอยู่ในเรือลำดังกล่าวแล้ว หลังจากมีคำสั่งสละเรือ ขณะที่นักประดาน้ำที่ลงไปสำรวจ และวางแผนในการกู้เรือ ก็ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณตัวเรือได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เรือจะเอียง หรือ มีการหลงพื้นที่ และอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักประดาน้ำด้วย