"ดีเอสไอ" เร่งตรวจสอบ "รถเสี่ยเบนท์ลีย์" ส่อเลี่ยงภาษีศุลกากร อยู่ในกลุ่มรถหรูหรือไม่ - แย้มตามหาคนให้ข่าวอดีตบิ๊กดีเอสไอช่วยคดีหากกระทบภาพลักษณ์องค์กรจ่อเอาผิด
วันที่ 13 ม.ค.66 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการสอบสวนดำเนินคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีอากรรถยนต์ราคาแพง ที่มีการส่งออกจากสหราชอาณาจักร เข้ามายังประเทศไทย จำนวน 1,020 คัน ว่า ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนรถยนต์หรูเลี่ยงภาษีที่เป็นคดีพิเศษ ทั้งหมด 1,428 คัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 โดยตนเองมารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เมื่อ ต.ค.2564 พร้อมรับนโยบาย รมว.ยุติธรรม เร่งรัดดำเนินคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนหมดอายุความ ซึ่งขณะนี้คดีสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้ว 167 สำนวนคดี ผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคล 113 ราย และเป็นบุคคลธรรมดา 1 ราย รวม 114 ราย
นายไตรยฤทธิ์ เผยอีกว่า ส่วนกรณีเสี่ยขับรถยนต์เบนท์ลีย์ที่ปรากฏเป็นข่าวเคยถูกศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ของกองบังคับการปราบปรามคดีเศรษฐกิจ ในสมัย "พล.ต.ต.โกวิท วงศ์รุ่งโรจน์” เป็น ผบก.ปอศ. จับกุมในข้อหา นำเข้ารถยนต์มีพฤติการณ์ส่อว่าหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร นำเข้าโดยสำแดงเอกสารเป็นเท็จ ซึ่งทางดีเอสไอ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มรถหรูที่ดีเอสไอรับผิดชอบด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ กำลังตรวจสอบบุคคลที่ให้ข่าวว่ามีอดีตอธิบดีดีเอสไอเข้าไปช่วยเหลือทางคดีว่าเป็นคนในหน่วยงานหรือไม่ เพราะตามข้อกฎหมายหากส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรจะเอาผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าเป็นจะคนในหรือคนนอก