"อุ๊งอิ๊งค์" นำทัพครอบครัวเพื่อไทย เปิดปราศรัยใหญ่อุดรธานี บอก "เอาลุงกลับไป เพื่อไทยมาแล้ว ลุงโทนี่ก็อยากกลับมาเลี้ยงหลาน" ขอเลือกเพื่อไทยทั้งคน ทั้งพรรค ชนะขาดทุกเขต

วันที่ 15 ม.ค. 2566 ครอบครัวเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี ในชื่อว่า “อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น” ซึ่งถือเป็นเวทีแรกของปี เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงนับหมื่นคนมารับฟังการปราศรัย

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุ่งศรีเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของชาวอุดรธานี ที่มี 9 เขต จะประกาศว่า เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ทั้งอุดรฯ และทั้งแผ่นดิน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 บัตร เพื่อให้ชนะขาด เพราะหากไม่ชนะขาด เพื่อไทยจะขาดเอง เนื่องจากจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามใช้กลยุทธ์แย่งจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย จะได้นายกรัฐมนตรีที่นำพาชีวิตประชาชนได้อย่างรุ่งเรือง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้เหตุผลถึงครอบครัวเพื่อไทยมาอุดรธานีซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง และเคยเลือก ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยยกจังหวัดมาแล้ว ก่อนจะเล่าถึงนายทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง แม้ถูกขัดขวางบ่อยครั้ง และมาวันนี้ เพื่อไทยขออาสาแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้ชาวอีสานอีกครั้ง และไม่กลัวว่าการแก้ปัญหาจะใช้เงินเยอะ เพราะพรรคหาเงินเป็นจากการคิดใหญ่ทำเป็น หากเลือกตั้งเมื่อไหร่ ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคและทุกเขต ยืนยัน นโยบายของพรรคเพื่อไทยทำได้จริง ค่าแรง 600 บาท ไม่ไกลเกินเอื้อม ก่อนทิ้งท้ายว่า "เอาลุงกลับไป เพื่อไทยมาแล้ว เอาลุงกลับไปเลี้ยงหลาน ลุงโทนี่ก็อยากกลับมาเลี้ยงหลานบ้าง"

นายแพทย์ชลน่าน ยังถามประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย ว่า คนไหนคือว่าที่นายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนตะโกนกลับว่า “ อุ๊งอิ๊งค์ๆๆๆ” ทำให้นางสาวแพทองธาร ซึ่งฟังปราศรัยอยู่ถึงกับยิ้มและหัวเราะไปด้วย ก่อนที่นายแพทย์ชนน่าน จะกล่าวต่อว่า ประชาชนพูดเอง ตนไม่ได้พูดว่าใครคือนายกรัฐมนตรี ก่อนย้ำถึงนโยบายที่ดีที่ประชาชนอยากได้ ที่จะประกาศสิ่งที่ดีที่สุดอีกครั้งหลังการประกาศยุบสภาทันที เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีฝากพรรคการเมืองที่จะมาปักธงอีสานว่า คนอีสานผูกพันกับพรรคเพื่อไทย คนอีสานไม่เอาคนเผด็จการ เพราะทำให้คนอีสานเหลื่อมล้ำ ต้องดิ้นรนหาคนจริงใจที่จะมาทำให้คนอีสานหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก คนอีสานไม่ชอบคนเอาเปรียบ กลั่นแกล้ง หรือคนที่พูดแล้วไม่ทำ เช่น คนที่เคยพูดว่าจะไม่ปฏิวัติ แต่สุดท้ายก็ยึดอำนาจ เมื่อยึดแล้วบอกว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ผ่านมาแล้ว 8 ปี ยังไม่คืนให้ประชาชน อีกทั้งยังประกาศสังกัดพรรคการเมือง ขอเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย พร้อมกันนี้ ยังมี ส.ว. เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ซึ่งหาก ส.ว. อยากแก้ก็แก้ไป แต่อยากบอกไว้ว่า เมื่อถึงเวลานั้นจะเข้าพื้นที่อีสานไม่ได้ ก่อนทิ้งท้ายขอให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อความอยู่ดีกินดีของชาวอีสาน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ประชาธิปไตย ปีแห่งการแลนด์สไลด์ขับไล่รัฐบาลเผด็จการ หากจะให้พลเอกประยุทธ์ลงจากอำนาจ ต้องให้พรรคเพื่อไทยชนะเพียงพรรคเดียว และการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากครั้งก่อน 3 ป. อยู่กันครบ แต่ครั้งนี้แตกกันแล้ว แต่เชื่อว่า แม้จะแยกกันเดินแล้วก็เดินได้ไม่ไกล เพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินไม่ไหว สุดท้ายก็จะกลับมาเดินด้วยกันอีก ที่อยู่กันไม่ได้เพราะต่างคนต่างอยากเป็นนายกฯ พลเอกประวิตรได้เป็นรักษาการนายกฯ ทำให้เกิดความมีชีวิตชีวา ลุกขึ้นมาใส่กางเกงยีนส์เดินปร๋อ พร้อมมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ หากพลเอกประยุทธ์ได้คะแนนมากกว่า เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์จะขอเป็นนายกฯ แต่หากพรรคของพลเอกประวิตรได้มากกว่าก็น่าดู เพราะเชื่อว่าพลเอกประวิตรคงไม่ยอม ดังนั้น จึงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนสไลด์ เพื่อให้นโยบายเป็นจริง