พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง ร้องเรียนทนายรณรงค์ว่า ภรรยาแอบมีชู้ หอบเสื้อผ้าไปอยู่กับชายใหม่ แถมพาลูกสาว 3 คนไปอยู่ด้วย พอไปตามก็ถูกแจ้งความกลับฐานลักทรัพย์
นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ไปพบกับนายธนกร พ่อค้าอาหารตามสั่ง อายุ 41 ปี หลังได้รับร้องเรียนว่า ถูกภรรยา อายุ 38 ปี ที่มีลูกด้วยกัน 3 คน นอกใจ แล้วก็ยังแจ้งความจับในข้อหาลักทรัพย์
นายธนกร เล่าว่า อยู่กินกับภรรยามา 15 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 3 คน อายุ 13 ปี , 11 ปี และ 7 ปี ตอนแรกครอบครัวก็มีความสุขดี จนกระทั่งเกิดปัญหาทางการเงินในช่วงโควิด-19 รถยนต์ที่ซื้อให้ภรรยาถูกยึด จึงเริ่มมีปากเสียงกัน นายธนกร บอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยสงสัยว่าภรรยาจะนอกใจ จนกระทั่งไปหาลูกสาวที่ห้องพัก เห็นภรรยาขับรถไปส่งผู้ชายที่เป็นคนพิการ พอถามลูก ลูกก็บอกว่าแม่พาผู้ชายคนนั้นไปโรงพยาบาล ตอนนั้นก็เริ่มสงสัยว่าไปส่งในฐานะอะไร เพราะปกติชายคนนั้นก็มีคนดูแลอยู่แล้ว หนักสุดคือโกหกตน ว่าพาลูกสาว 3 คน ไปเที่ยวภาคใต้ แต่กลับเอาลูกไปเฝ้าไข้ชายคนใหม่ที่โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องนี้ลูกสาวเป็นคนเล่าให้ฟังเอง
ส่วนปลายปีที่แล้ว ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกที่โรงเรียน แล้วพบว่า เสื้อใน กางเกงในที่ซื้อให้ภรรยา แขวนอยู่ที่ราวหน้าต่างของชายคนใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับห้องที่ตัวเองพัก ด้วยความโกรธจึงไปตะโกนด่าเรียกให้ทั้งคู่ออกมาจากห้อง แต่ไม่ยอมออก จึงเดินไปสับสวิตช์คัทเอาท์ที่อยู่หน้าห้องลง หลังจากนั้นก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งหมายศาลมาที่บ้าน ถูกดำเนินคดีข้อหา "ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน" ภรรยาไปแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าตนขโมยชุดชั้นใน ทั้งที่ไม่ได้ทำ
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายผู้หญิงมาพูดคุยเจรจากับสามีดี ๆ ให้นึกถึงลูกสาว 3 คน เป็นอันดับแรก การจะแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ต้องมีหลักฐาน พูดลอย ๆ ไม่ได้ และอย่าลืมว่าฝ่ายสามีก็สามารถแจ้งความกลับฐานมีชู้ได้เหมือนกัน เพราะเห็นหลักฐานคาตา ถ้าไม่อยากอยู่กับสามีแล้วก็บอกเลิกเขาดี ๆ ให้มันจบ อย่าแอบไปมีคนใหม่