ผบช.ภาค9 แถลงคดียิงถล่มก๊วนตำรวจในร้านข้าวต้ม ตาย 1 เจ็บ 2 สาเหตุหยามศักดิ์ศรี พบประวัติโชกโชน เร่งขยายที่มาอาวุธปืน
กรณียิงถล่มกันในร้านอาหาร ในพื้นที่หมู่1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อช่วงตี2 เมื่อวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 2 คน โดยคนถูกยิงเป็นฝ่ายของตำรวจและทีมงานที่ไปนั่งกินในร้าน ส่วนคนยิงเป็นลูกค้าที่พาลูกกับเพื่อนมานั่งกินอยู่ก่อนแล้วและมีเรื่องทะเลาะกันจากสาเหตุที่ฝ่ายตำรวจส่งเสียงดัง
ล่าสุดวันที่ 16 ม.ค. 66 ที่ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภาค9 เปิดเผยว่า คดีนี้จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีมีผู้ก่อเหตุ 2 คน และออกหมายจับพร้อมกับติดตามจับได้ทั้งสองคนคือ นายวันชัย หรือบอย อายุ 35 ปี คนยิง กับนายณัฐพล หรือแบงค์ อายุ 25 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุ
พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวว่า จับกุมนายวันชัย ได้ที่หลังบ้าน ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และยึดอาวุธปืนเล็กยาว M16 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. 11นัด และซองบรรจุกระสุนปืนเล็กยาว M16 แม็กกาซีนขนาดบรรจุ 30 นัด อีก1 ซอง
ส่วนนายณัฐพล ผู้ต้องหาอีกคนได้รับการประสานจากญาติว่าจะขอเข้ามอบตัว ตำรวจจึงได้เดินทางไปรับตัวที่บ้านพัก ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา และยึดรถยนต์ ที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี อาวุธปืนพกสั้น 11 มม.1กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 สีทอง 7 นัด
ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ใด้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามพฤติการณ์"
จากการสอบสวนนายวันชัย คนยิง ยอมรับสารภาพว่ายิงจริง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า มีปากเสียงกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือและยิงกันขึ้น ที่ต้องยิงเพราะเสียศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายมีปืนแล้วต้องยิง ส่วนที่ต้องมีปืนเอ็ม16 มากินข้าวด้วยนั้น เพราะต้องการพกปืนมาเป็นเพื่อน เพราะเคยต้องโทษในคดียาเสพติดและลักทรัพย์และเพิ่งพ้นโทษออกมาประมาณปีเศษซึ่งเป็นความคิดที่ผิดเพราะมีแต่พวกโจรที่ทำหรือคิดแบบนี้
ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของอาวุธปืนเอ็ม16 ของคนร้ายที่ยึดได้ว่า เคยใช้ก่อเหตุในคดีใดบ้างเพราะผู้ต้องหาเป็นคนพื้นเพเดิมใน จ.พัทลุงซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีคดีรุนแรง หรือหากถ้าผลการสอบสวนเชื่อมโยงไปถึงใครต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
รายงานว่ามีการประชุมและสั่งการให้ตำรวจคุมเข้มเรื่องของอาวุธปืน เพื่อตัดโอกาสในการใช้อาวุธปืนออกมาก่อเหตุ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่เคยออกจากคุกมา ต้องติดตามพฤติกรรมเพราะมีโอกาสที่จะก่อเหตุอีก เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 วันนี้ได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนีเพิ่มเติมในการประกอบคดีนี้