ส่อง 12 ความเชื่อห้ามทำใน "วันตรุษจีน" เชื่อไม่เป็นมงคลพาโชคร้ายตลอดทั้งปี

"ตรุษจีน" ถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน มักเรียกว่า "วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ" สำหรับวันตรุษจีนปีนี้ จะตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566

ตรุษจีนในประเทศไทย ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
วันจ่าย - วันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว

วันไหว้ - ไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล

วันเที่ยว -หรือวันถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบา งอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ยังมีความเชื่อสิ่งที่ห้ามทำวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าไม่เป็นมลคลและเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นได้

12 ความเชื่อ ห้ามทำวันตรุษจีน


1. ห้ามทำความสะอาดบ้าน
การกวาดบ้านในวันตรุษจีนหรือทำความสะอาดบ้านในวันปีใหม่ ตามความเชื่อนั้นถือเป็นการเอาโชคลาภออกไปนอกบ้าน ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งสิ่งที่ชาวจีนจะไม่ทำในวันดังกล่าว และนิยมทำความสะอาดบ้านให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันตรุษจีน

 

2. ห้ามสระผม
สาเหตุที่การ "ห้ามสระผม" เป็นหนึ่งในความเชื่อของชาวจีนที่ห้ามทำในวันตรุษจีนนั้น เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" จึงถือว่าการสระผมในวันตรุษจีนเปรียบเหมือนการนำความมั่งคั่งออกไปด้วย

 

3. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
"โจ๊กและข้าวต้ม" ตามความเชื่อของคนจีนถือเป็นอาหารสำหรับคนจน ดังนั้นการกินโจ๊กหรือข้าวต้มตั้งแต่ต้นปี จึงเปรียบเหมือนการขัดขวางความร่ำรวย ทำให้ต้องอยู่กับความลำบากและยากจนตลอดทั้งปี ขณะที่การห้ามกินเนื้อสัตว์เพราะชาวจีนมีความเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้า เป็นเทพเจ้าที่ทานอาหารมังสวิรัติ จึงควรงดการกินเนื้อสัตว์ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยเช่นกัน

 

4. ห้ามเข้าห้องนอนคนอื่น
อีกหนึ่งความเชื่อที่ชาวจีนปฏิบัติกันมานั่นก็คือการห้ามเข้าห้องนอนคนอื่น และห้ามให้คนอื่นเข้าห้องนอน เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้เจอโชคร้าย ทั้งคนที่เข้าห้องนอนคนอื่น และคนที่ยินยอมให้คนอื่นเข้าห้องนอน

 

5. ห้ามซักผ้า
วันตรุษจีน ตามความเชื่อนั้นถือเป็นวันกำเนิด "เทพเจ้าแห่งสายน้ำ" ดังนั้นจึงเชื่อว่าการซักผ้าหรือการใช้น้ำเป็นการลบหลู่เทพเจ้าแห่งสายน้ำด้วยเช่นกัน

 


6. ห้ามทำของแตก
อีกหนึ่งความเชื่อที่ห้ามปฏิบัติในวันตรุษจีน คือการห้ามทำแก้วหรือเซรามิคแตก เพราะเชื่อว่าถ้าหากทำแก้วแตกในวันดังกล่าวจะส่งผลกระทบถึงความมั่งคั่งและโชคลาภ แต่อย่างไรก็ตามหากใครที่เผลอทำแก้วหรือเซรามิคแตกโดยไม่ได้ตั้งใจก็มีวิธีแก้ไขคือให้ห่อด้วยกระดาษสีแดงทันที พอพ้นวันตรุษจีนให้นำส่วนที่แตกโยนลงทะเลสาบหรือแม่น้ำ

 

7. ห้ามใส่เสื้อผ้าขาวดำ
การแต่ง "ชุดสีขาว" หรือ "ชุดสีดำ" ตามธรรมเนียมของชาวจีนหมายถึงการไว้ทุกข์ ดังนั้นแต่งชุดดังกล่าวในวันตรุษจีนจึงถือเป็นรางร้ายและการไว้ทุกข์จึงควรหลีกเลี่ยงและสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสโดยเฉพาะสีแดง เพราะ "สีแดง" เป็นสีมงคลตามความเชื่อที่นำความสุขและความโชคดีมาให้

 

8. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ดังนั้นชาวจีนหรือชาวจีนไม่ซื้อรองเท้าใหม่

 

9. ห้ามใช้ของมีคม
อีกหนึ่งข้อห้ามในวันตรุษจีนคือการใช้มีด กรรไกร หรือของมีคมทุกชนิด ตามความเชื่อแล้วหากใช้ของมีคม จะเหมือนเป็นการตัดความโชคดี หรือ โชคลาภออกไป นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยกุศบายเพราะในสมัยก่อนงานของผู้หญิงส่วนใหญ่คือการดูแลบ้าน เย็บปักถักร้อย ดังนั้นเพื่อให้ผู้หญิงหรือแม่บ้านพักผ่อนในวันตรุษจีนอย่างเต็มที่

 

10. ห้ามให้คนอื่นยืมเงิน
ห้ามพูดว่าไม่มีเงินหรือห้ามห้ามให้ใครยืมเงิน เพราะเชื่อกันว่าการให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้มีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอดทั้งปี และอีกหนึ่งความเชื่อที่สำคัญคือหากใครที่ติดเงินหรือเป็นหนี้ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน ไม่เช่นนั้นจะมีหนี้สินตลอดปี

 

11. ห้ามพูดคำหยาบ
ตามความเชื่อของชาวจีน การพูดคำหยาบเป็นพลังงานลบ การเริ่มต้นพูดคำหยาบในวันต้นปีจะทำให้เจอสิ่งไม่ดีตลอดทั้งปี ดังนั้นจึงเชื่อว่าในวันดังกล่าวต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่พูดจาหยาบคาย หากใครทำได้จะทำให้ปีนั้นตลอดทั้งปีพบเจอแต่ความสุข

 


12. ห้ามร้องไห้
เนื่องจากวันตรุษจีนถือเป็นวันที่ต้อนรับสิ่งดี ๆ ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากร้องไห้ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของปีใหม่ก็จะทำให้เจอแต่เรื่องไม่ดีต้องเสียน้ำตาและร้องไห้ไปตลอดทั้งปี