"ดีเจมะตูม เตชินท์" เผยนาที! จัดฉากรวบมิจฉาชีพสาว หลังอ้างชื่อโกงเงินหลายล้าน

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังมีคลิปพิธีกรดัง ดีเจมะตูม จับมิจฉาชีพนำชื่อตนเองไปแอบอ้าง หลอกเงินคนอื่นไป 8 ล้านบาท และคู่กรณีมีคดีฉ้อโกงติดตัว และติดกำไล EM อยู่ที่ข้อเท้าด้วย

 

ล่าสุด ดีเจมะตูมได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า

ที่เกิดการจัดฉากจับมิจฉาชีพ เพราะทางน้องที่รู้จักโดนหลอก โดยการอ้างชื่อเราเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ น้องหลงเชื่อเสียเงินไปเกือบ 8 ล้าน ตนเลยไม่สบายใจ จึงต้องออกมาเคลื่อนไหว

 

และอยากยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ หรือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงของคนอื่น

 

ตั้งแต่เราทราบว่าเขามีคดีความติดตัวเราก็พยายามห่างจากเขาออกมา ช่วงเวลาที่รู้จักกันคือไม่ถึงเดือนเลย แต่เขาไปอ้างว่าสนิทกับพวกเรามาก โดยการทำเหมือนตัวเองเป็นลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านอาหารของตน และยังมีการหลอกเลขาของเราในการให้ซื้อที่ดิน  แต่สุดท้ายวันนัดจ่ายเงินก็ไม่มา จนทำให้เรารู้สึกสงสัยว่ามันไม่ชอบมาพากล

 

พอถึงวันที่เขาจะให้เลขาเราไปเอาที่ดิน โดยอ้างว่าจะโอนเงินให้ 1 ล้านบาท เพื่อไปจ่ายก่อน สรุปโอนมาจริงแต่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็ให้โอนกลับแล้วอ้างว่าจะไปจ่ายเอง เพราะอันนี้เขาโอนเงินเข้ามา เราเลยเอาชื่อไปเช็คสรุปมีคดีความติดตัวในหารฉ้อโกงหลาย 10 ล้านบาท

 

เลยวางแผนกันเพื่อจะนำตัวเขามาที่ร้าน โดยมีการประสานเจ้าหน้าที่ไว้เรียบร้อย แต่พอผู้ต้องหาถึงร้านและสอบถามข้อมูล สุดท้ายก็รู้ว่าเขามีคดีตามหมายจับอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวอะไร เพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่ตลอด

 

ผู้เสียหายที่รวมตัวกันตอนนี้ มีมูลค่าความเสียหายเป็นหลัก 100 ล้าน และผู้หญิงคนนี้มีคดีติดตัวอยู่ 34 คดี เท่าที่เช็กได้ เกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวง ชวนลงทุน ฯลฯ ใครที่คิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ ทักมาหาเลยเพื่อมาเปิดโปงด้วยกัน เพราะตอนนี้เขาโดนควบคุมตัวเข้าห้องขังอยู่ และจะบอกว่าคดีที่เขาโดนคือเป็นคดีเก่า ยังไม่ใช่ส่วนของคดีทางเราด้วย

 

ส่วนที่ทนายบอกว่าตนอาจมีความผิด คือจะบอกว่าทำสิ่งนี้ เพราะต้องปกป้องตัวเอง และมองว่าเราทำในพื้นที่ตัวเอง เพื่อรักษาชื่อเสียงของเรา แต่เดี๋ยวคงปรึกษาทนายส่วนตัวว่าจะดำเนินการอะไรได้บ้าง แต่ความจริงแล้วคนที่จะฟ้องเราได้คือผู้ต้องหาเท่านั้น แต่ถ้าเขาฟ้องมาเราก็จะฟ้องกลับแน่นอน เพราะแอบอ้างชื่อเราในทางเสียหาย

 

ต่อไปคนที่เข้ามาต้องสแกนมากขึ้น แต่จะไประบุไม่ได้ว่าเข้ามาเป็นมิตรหรือมิจฉาชีพ ดังนั้นสิ่งที่ง่ายที่สุดคือการระมัดระวัง หากใครจะลงทุนทำธุรกิจอะไร ควรตรวจเช็คข้อมูลให้ดี หรือปรึกษาคนที่มีความรู้จริงๆ เหมือนกับคำว่า “ความการลงทุนมีความเสี่ยง”