"ประวิตร" ประกาศพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 หากประชาชนให้โอกาส ยัน จับมือได้ทุกพรรค ตามนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ประเดิมเปิดนโยบายแรกเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาท
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำประกาศนโยบายแรกของพรรคพลังประชารัฐ ว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และบริหารประเทศมากกว่า 4 ปี และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ด้วยอุดมการและนโยบายของพรรคที่ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างความสามัคคีปรองดองให้คนในชาติ เป็นประชาธิปไตยอย่างมีเสถียรภาพ ไร้ความขัดแย้ง สร้างความสงบสุขประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ในช่วงที่เป็นรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐได้ขับเคลื่อนนโยบายมีผลงานที่เป็นรูปธรรมตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำตามนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและการบริหารจัดการน้ำ การจัดการที่ดินการปราบปรามการค้ามนุษย์และอื่นๆอีกมากมาย
ทั้งนี้ ยังมีโจทก์ทางการเมือง ที่หลายฝ่ายเตรียมแก้ไขปัญหาให้กับประเทศไทย คือ ยังคงมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งแยกเป็นสองขั้น ตนจึงขอยืนยันจุดยืนของพรรคพลังประชารักษ์อย่างหนักแน่นว่าเราพร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามผ่านความขัดแย้ง และเพื่อสร้างพลังแห่งความสามัคคี เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามาหาทางออกร่วมกันเพื่อนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน ก้าวข้ามผ่านความขัดแย้งและเดินหน้าสู่ความสงบสุขของบ้านเมือง
พร้อมระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ มีบุคลากรที่เข้าใจปัญหาของพี่น้องเข้าใจในแต่ละพื้นที่และอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ พร้อมที่จะสานต่อนโยบายที่ดีและมีนโยบายใหม่เพื่อให้คนไทย ได้เห็นถึงความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ทุกเพศทุกวัยด้วยคำว่า “พลัง สามัคคี ประชามีสุข รัฐพลิกโฉมบริการ”
ทั้งนี้ ได้ประกาศเดินหน้านโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน ในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท
โดยหลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายสันติพร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า นโยบายเพิ่มเงินสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำทันทีหากได้เป็น แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และหลังจากนี้จะทยอยเปิดนโยบายอื่นๆของพรรคพลังประชารัฐตามมา
ด้านพลเอกประวิตร ตอบสื่อมวลชน หลังถามถึงความพร้อมที่จะเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่ ว่า "ก็เลือกมาสิ ถ้าเลือกให้ผมเป็นผมก็เป็นนายกฯ"
เมื่อถามย้ำว่า หากได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมที่จะจับมือกับทุกขั้วการเมืองใช่หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า นโยบายของพรรคคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และยังไม่ได้บอกว่าจะจับมือกับใครเลย แต่สามารถคุยกับพรรคการเมืองได้