ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม สรุปสถานการณ์เหตุไฟไหม้เรือระเบิดขณะจอดซ่อม หลังสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ยืนยันบาดเจ็บ 4 สูญหาย 5 พบผู้เสียชีวิต 2
วันที่ 17 ม.ค. 2566 นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เข้าประชุมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ อบต.บ้านแหลม เพื่อสรุปสถานการณ์หลังจากสามารถควบคุมเหตุการณ์ เรือสมูทซี 22 ระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ได้แล้ว ก่อนจะออกมาเปิดเผยโดยระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วตั้งแต่ช่วงเวลา 15.30 น. หลังจากเรือได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาก่อนจะเกิดการระเบิดที่บริเวณท่าเทียบเรือของ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานกลึงและเชื่อมโลหะ
โดยเรือลำเกิดเหตุมีน้ำหนักน้ำหนักเรือ 2,996 ตันกรอสส์ แจ้งเข้าอู่เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ภายในเรือมีน้ำมันเตาและดีเซลคงค้าง และมีลูกเรือจำนวน 17 คน ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นมี จำนวน 4 คน เป็นช่างเชื่อมบนเรือ หลังเกิดเหตุได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า โดยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 ราย กลับบ้านได้แล้ว 1 ราย ส่วนผู้สูญหายมีทั้งหมด 5 ราย และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ในส่วนของความเสียหายเบื้องต้น พบมีบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งสิ้น 71 หลังคาเรือน โดยแบ่งเป็นบ้านเรือนในพื้นที่ตำบลแหลมใหญ่ 60 หลังคาเรือนและในพื้นที่ตำบลบางจะเกร็ง จำนวน 11 หลังคาเรือน ทางจังหวัดและส่วนที่เกี่ยวข้องจะเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของของประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
นอกจากนี้ ได้ออกหนังสือคำสั่งระงับใช้เรือสมูทซี 22 และออกหนังสือคำสั่งห้ามใช้ท่า อู่เรือ รวมมิตรด็อคยาร์ด พร้อมออกหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าให้ข้อเท็จจริง ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสงคราม ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 18 มกราคม) ช่วงเวลา 14.00 น. โดยออกหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญบริษัท พีทีจี สมุทรสงคราม, คลังน้ำมันเชลล์สมุทรสงคราม, พีเอสพีสเปเชียลตี (มหาชน) ร่วมตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง และหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ให้ชัดเจนอีกครั้ง