ทหารพรานอารมณ์ร้อน ทะเลาะวิวาทกับหนุ่มข้างห้อง ชักปืนยิงดับ

เมื่อคืนนี้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างเพื่อนข้างห้อง ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ใน ซอย ศธรทิพย์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ภายในแบ่งเป็นห้องพักให้เช่า พบผู้บาดเจ็บคือ นายสมเกียรติ อายุ 29 ปี ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ด้านหลัง เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชีวิต แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา

วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ที่เกิดเหตุพบกับ ผู้ดูแลห้องเช่า ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เธอได้ยินเสียงดังจากการทะเลาะวิวาทกัน ระหว่าง ผู้ก่อเหตุ และแม่ของผู้เสียชีวิต ตอนนั้นแม่ของผู้เสียชีวิตลงมาบอกว่าผู้ก่อเหตุได้ถือปืนมาโวยวายหน้าห้องของเธอ เธอกลัวมาจึงลงมาขอความช่วยเหลือ และระหว่างนั้นเธอได้โทรศัพท์ไปบอกลูกชาย คือผู้เสียชีวิตให้มาช่วย แต่เมื่อผู้เสียชีวิตมาถึงก็โมโหสุดขีด รีบขึ้นไปยังห้องที่เกิดเหตุเพื่อหวังจะไปเคลียร์ว่ามาต่อว่าแม่ของเขาทำไม แต่ไม่ทันพูดอะไรก็ถูก นาย ชนะภัย อายุ 37 ปี หรือ ต๋อง ใช้อาวุธยิงเข้าที่ด้านหลัง

ผู้ดูแลห้องเช่า ได้เล่าให้ฟังอีกว่า ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุและภรรยามาเช่าห้องได้ประมาณเดือนกว่า ซึ่งผู้ก่อเหตุ เป็นทหารพราน มาเช่าอยู่ แต่ตลอดเดือนกว่ามักจะทะเลาะโวยวายเสียงดังจนรบกวนคนผู้อื่น เลยเคยทำร้ายภรรยาจนถึงขั้นใส่กุญแจมือ และแม่ของผู้ตายเคยไปช่วยเหลืออกมา แต่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไปสู่การทะเลาะรุนแรงครั้งนี้หรือไม่นั้น เจ้าของหอพักก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะนิสัยของผู้ก่อเหตุและภรรยานั้นมักจะมีความหวาดระแวงต่อกันตลอด และผู้ก่อเหตุ ชอบมาพูดกับเจ้าของหอพักว่า มีคนมายุภรรยาของตนเองให้เลิกกับตนเอง และชอบคิดว่าภรรยาจะมีชู้ ประกอบกับเป็นคนที่โมโหขี้หึงรุนแรง ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิต อยู่มาหลายปีแล้วและไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ ที่บันทึกวิดีโอไว้ได้ขณะที่ผู้ก่อเหตุ เธอเล่าให้ฟังว่า เธอได้ยินเสียงดังคล้ายกระจกแตกดังสนั่น จึงเดินออกมาดู ก็เห็นว่า ผู้ก่อเหตุใช้เท้ากระทืบเข้าไปที่หน้าผู้เสียชีวิต ประมาณ 8 ครั้ง และเธอก็สังเกตเห็นว่ากำลังถือปืน เธอจึงกลัวและรีบวิ่งกลับเข้าห้อง แต่ก่อนหน้านั้น เธอได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกัน

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ไปสอบถามภรรยาของผู้ก่อเหตุ ที่ยังอยู่ในห้องพัก ได้เล่าให้ฟังว่า เธอไม่รู้ว่า สามีไปโมโหอะไรกับเพื่อนข้างห้อง ทั้งที่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่หลังจากไปโวยวายลูกชายเพื่อนข้างห้อง ก็มาทุบประตูเสียงดัง นาทีนั้นเธอตกใจทำให้สามีหยิบปืนออกไปและได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ระหว่างนั้นเธอยืนอยู่หน้าประตูไม่เห็นว่าสามียิง จากนั้นเธอก็กลัวมากเพราะหลังเกิดเหตุ สามีก็มานอนกอดเธอไม่ให้เธอออกไปไหน จนผู้ดูแลห้องเช่า และตำรวจ ต้องเกลี้ยงกล่อมนานหลายชั่วโมง กว่าเธอจะยอมเปิดประตูและให้ตำรวจเข้าไปคุมตัวสามีเธอ  เธอยอมรับว่าที่ผ่านมา สามีเป็นคนโมโหรุนแรงเพราะเกิดจากความหึงหวงว่าเธอจะมีชู้

ส่วนหลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ กลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่พอใจที่ผู้ก่อเหตุเป็นทหารพราน กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้บุกไปยังสน.บางโพงพาง วันนี้ก็ได้บอกกับทีมข่าว ว่า ยอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจและกลัวผู้ก่อเหตุจะหลุดคดีเพราะเป็นทหารพราน และยังได้เล่าให้ฟัง อีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองมาเห็นผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ชั้น 1 จากที่ผู้ตายตอนนั้นตะเกียกตะกายลงมา ตนเองเห็นแล้วสงสารและโมโหมาก

ขณะที่ตอนนี้ตัวผู้ก่อเหตุตอนนี้อยู่สน.บางโพงพาง และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ก่อเหตุเคยถูกต้องคดีมาก่อนหน้านี้ 2 ข้อหา ข้อหาแรกในปี 2552 ข้อหา ผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ของสภ.เขืองใน  อีกคดี ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น สน.ยานนาวา