ไม่รอดสายตาตำรวจ กระบะติดฟิล์มทึบแถมติดที่บังแดด หวังซุกต่างด้าวหนีเข้าเมืองกว่า 10 ราย หวังนำเข้ามาส่งในพื้น จ.อยุธยา
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สืบสวนและเฝ้าระวังตามเส้นทาง ถ.พหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะปฏิบัติหน้าที่พบเห็น รถกระบะ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ตขก-8890 กรุงเทพมหานคร ภายในรถติดฟิล์มทึบ ขับขี่มาด้วยความเร็ว และขับขี่หวาดเสียว อาจจะก่อนให้เกิดอันตราย ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุดแต่ได้เร่งความเร็วรถขึ้นเพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่ามีพิรุธจับขับขี่ติดตามไป และสกัดหยุดรถยนต์คันดังกล่าวได้สำเร็จ
เมื่อตรวจสอบพบ นายตังชัย สัญชาติไทย อายุ ๔๒ ปี เป็นผู้ขับขี่ และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีกจำนวน 10 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว นายตังชัย ให้การยอมรับว่า วันที่ 6 มกราคม 2566 ได้รับการประสานจาก เพื่อนคนไทย โทรศัพท์มาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ จ.สุโขทัย จำนวน 10 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ อ.วังน้อย โดยได้รับค่าจ้างในการขนคนเที่ยวละ 20,000 บาท โดยตนรับรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และยินยอมที่จะนำไปส่งที่ปลายทาง ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 10 ราย ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยและเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วจะมีคนพาออกมาขี้นรถนำไปหานายจ้างหรือนายหน้า โดยนายหน้าจะเก็บเงินคนต่างด้าว รายละประมาณ 18,000-25,000 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งขอหา นายตังชัย ผู้ถูกจับที่ 1 ในข้อหา "รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม" และแจ้งข้อหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 10 ราย ผู้ถูกจับที่ 2-11 ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ ในชั้นจับกุมผู้ถูกจับทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับส่ง พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป