"ชูวิทย์" ย้ำคดีตู้ห่าวจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไทย มั่นใจ ผบ.ตร. สั่งพนักงานสอบสวนยื่นค้านประกันตัว "ตู้ห่าว" แล้ว ที่เหลืออยู่ที่ศาลฯ ตนเองจะตามดูห่าง ๆ
วันที่ 23 ม.ค.66 เมื่อเวลา 11.10 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี ภายหลังขึ้นไปร่วมสังเกตการณ์ ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว ผู้ต้องหาคดีหมายเลขดำ ย.87/2566 พร้อมพวกที่ถูกฝากขังในเรือนจำและศาลนัดสอบปากคำผู้ต้องหานัดแรก นานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนเองได้ขึ้นไปสังเกตการณ์บริเวณหน้าห้องพิจารณาคดีที่ 103 พบว่ามีการคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ อย่างเข้มงวด โดยศาลฯ มีการนัดผู้ต้องหาทั้งหญิงและชายมากว่า 20 คน บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีค่อนข้างวุ่นวายเนื่องจากนอกจากผู้ต้องหาแล้วยังมีทนาย มีญาติ ๆ มีล่ามแปลภาษา มารวมตัวกันจำนวนมาก ตนเองในฐานะพยาน จึงได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกประกอบกับมีอัยการกำชับตนเองมาว่าไม่ให้พูดอะไรมากเนื่องจากตนเองเป็นพยาน
ทั้งนี้ตนเองคิดว่าคดีนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่างความถูกต้องและผู้กระทำความผิด ที่เป็นชาวต่างชาติมาอาศัยแผ่นดินไทยกระทำความผิด ดังนั้นจะเป็นบทพิสูจน์ว่ากฎหมายเราศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เนื่องจากไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติถ้าทำผิดก็จะบังคับใช้ได้ ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้มีประมาณ 20 คน การต่อสู้คงใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากต้องรวบรวมทั้งพยานหลักฐาน เอกสารและมีการใช้ล่ามแปลภาษาอีกมากมาย ขณะที่วันนี้ตนเองก็มั่นใจว่า ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปแล้ว จากนี้ก็อยู่ที่ศาลท่านจะเป็นผู้พิจารณา ตนเองคงติดตามดูอยู่ห่าง ๆ
"วันนี้ห้องพิจารณาคดีคนแน่นมาก เห็นตู้ห่าวและผู้ต้องหาคนอื่น ๆ เดินผ่านหน้าไป มีผู้ต้องหาหลายรายมองหน้าตนเองด้วยสายตาเคียดแค้น แต่ต้องนำเรียนว่าตนเอง ไม่กลัว ไม่สะทกสะท้าน เพราะผ่านเรื่องราวทำนองนี้มาเยอะ ประกอบกับที่นี่เป็นแผ่นดินไทยแผ่นดินของตนเองจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปกลัวอะไร" นายชูวิทย์ กล่าว