"จตุพร"สุดกลั้นยอมกลืนเลือดจนเหลืออด คำพูดอดีตนายใหญ่กระทบใจ พร้อมย้ำชัดบุญคุณทดแทนไปหมดแล้ว ไม่เหลือเยื่อใย 30 ปีที่รู้จักกันมา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน/อดีตคนเสื้อแดง เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ถึงจุดแตกหักระหว่างเจ้าตัวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ปกติหลีกเลี่ยงที่จะวิพากษ์วิจารณ์อดีตนายกฯ ทักษิณและพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ มีคนเดินทางไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกง แล้วก็มีการพูดในวงกินข้าวว่าที่คุณจตุพรไปช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หาเสียง เพราะไปรับจ้างเห็นแก่เงิน ตรงนี้ถือเป็นฟางเส้นเดียวที่ทำให้ หมดความเคารพนับถือในตัวคุณทักษิณ
นายจตุพร ระบุว่า ในความเป็นจริงเรื่องหลายเรื่องก็อดทนกันมา เพราะต้องการรักษาขบวน โดยยกตัวอย่างครั้งหนึ่งว่าคุณทักษิณเคยประกาศต่อหน้าคนถึง 2 ครั้งว่า จะแต่งตั้งคุณจุตพรเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ทั้งยังมีเรื่องที่เคยเตือนแรงๆ เรื่องที่จะถูกพล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่คุณทักษิณไม่เชื่อ เพราะเคยพูดว่ามีคนแพ้ทางคุณยิ่งลักษณ์ แต่เรื่องจริงก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557
ประเด็นแตกหักระหว่างคุณทักษิณกับคุณจตุพรนั้น เปรียบเหมือนฟางเส้นเดียวบนหลังลา มันเต็มพิกัดแล้ว โดยเฉพาะประเด็นดูถูกโดนดูหมิ่นศักดิ์ศรี ทั้งๆ ที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 2537 เกือบ 30 ปี เพราะฉะนั้นคำว่าบุญคุณทดแทนกันไปครบหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่เรื่องทุกเรื่องที่ต่อสู้เป็นผลพวงใจที่เกี่ยวกับประเทศชาติบ้านเมือง โดยเปรียบตัวเองเป็นนักรบที่สู้เพื่อบ้านเมือง นักรบก็ต้องการการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่เพิ่งออกมาแถลงว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 ครอบครัวเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนถามถึงประเด็นที่นายจตุพร ออกมาเคลื่อนไหว แต่ปรากฏว่าทางฝั่งผอ.ครอบครัวเพื่อไทยเลี่ยงไม่ตอบ เช่นเดียวกับนายจตุพรพูดถึงความสัมพันธ์กับนปช.ตอบว่า หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงกันอยู่ เพราะอยู่ด้วยกันมายาวนาน อีกฝ่ายย่อมรู้นิสัยเป็นอย่างดี ซึ่งความพยายามในการแยกจตุพรกับณัฐวุฒิในปี 2562 ถือว่าสำเร็จ ต่างคนต่างอยู่บนเส้นทาง แต่ถ้ามากระทบกระเทือนใจกันก็พร้อมสวนกลับทันที ปกติเป็นตนคนอดทน แต่เจ็บมากที่สุด ยอมกลืนเลือดจนกระทั่งเหลืออดจริงๆ