ความคืบหน้ากรณีครูบาไก่ภายหลังอิคคิวนำหลักฐานร้อง ปปง.กล่าวหาว่าครูบาไก่ตั้งสำนักสงฆ์ลุกล้ำเขตป่าไม้ ยืนยันทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ขณะที่หลักฐานต่างๆที่ระบุว่าเป็นครูบาไก่ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมาเป็นคลิปครูบาไก่บ๊ายบายซ้อนท้ายหนุ่มขับเจ็ตสกี

 

ความคืบหน้ากรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่ามีอดีตโยมอุปัฏากพระเกจิชื่อดังจังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็นพระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ

 

และต่อมามีการตรวจสอบทราบว่าพระสงฆ์ที่ถูกกล่าวหาคือครูบาไก่ หรือ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินว ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ก่อนที่ครูบาไก่พร้อมทนายความและลูกศิษย์ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหายืนยันภาพของลับไม่ใช่ของตัวเองพร้อม มอบหมายให้ทนายความเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่กล่าวหาทั้งสี่คนที่ปรากฏตามสื่อคืออิคคิว บุ๋ม บอลขอนแก่นซึ่งไลฟ์สดพูดเรื่องดังกล่าว และลูกศิษย์อีกคนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อกล่าวหาครูบาไก่

 

ซึ่งหลังจากที่มีการแถลงข่าวทางคณะสงฆ์ก็ได้ยุติการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวชั่วคราวเนื่องจากทางคณะสงฆ์รอให้กระบวนการตัดสินของทางคดีอาญาสิ้นสุดในชั้นศาลก่อนจึงจะสามารถดำเนินการตรวจสอบต่อได้

 

แต่ต่อมาก็มีภาพครูบาไก่เผยแพร่ออกมาในสื่อโซเชียลอีกครั้งซึ่งเป็นภาพขณะที่ครูบาไก่เล่นน้ำรวมทั้งนั่งซ้อนท้ายเจ็ตสกีและภาพที่ระบุว่าเป็นผ้าห่มผืนเดียวกันกับที่อยู่ในภาพหลักฐานที่คุณอิคคิวนำมาเปิดเผยบอกว่าเป็นภาพของรับของครูบาไก่ซึ่งส่งให้กับชายที่ชื่อเจน ซึ่งในเรื่องล่าสุดทางครูบาไก่ก็ได้ออกมา ยอมรับว่าบุคคลที่อยู่ในภาพนั้นเป็นครูบาไก่จริงแต่ยังคงปฏิเสธในเรื่องของภาพว่าไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกันแม้จะเป็นภาพจริงซึ่งในกุฏิที่อยู่นั้นลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลาและภาพที่ถ่ายนั้นเป็นเณรน้อยที่มาจำวัดด้วยเป็นผู้ถ่ายแต่ภาพของลับนั้นยืนยันว่าไม่ใช่ของตัวเองและไม่ได้เป็นคนถ่ายส่งให้ใคร ในส่วนภาพเล่นน้ำและนั่งเจ็ตสกีนั้นยอมรับว่าเป็นความไม่เหมาะสมซึ่งก็น้อมรับในส่วนนี้ โดยรอทางคณะสงฆ์เป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนระเบียบของสงฆ์ต่อไป

 

ล่าสุดมาอีกหนึ่งประเด็นเป็นประเด็นที่ อิคคิว เดินทางนำหลักฐานยื่นร้องเรียนที่ ปปง. ให้เอาผิดกรณีตั้งที่พักสงฆ์ลุกล้ำเขตป่าไม้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังครูบาไก่ทราบว่ากรณีพื้นที่บุกรุกเขตของป่าไม้นั้นเคยมีการร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้โดยมีทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่มารังวัดแนวเขตซึ่งจากการตรวจสอบในเขตพื้นที่วัดก็ไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใดพร้อมทั้งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แนะนำว่าหากจะทำเป็นสำนักสงฆ์ก็สามารถ ทำได้โดยห้ามขยับเข้ารุกล้ำในเขตป่าไม้ซึ่งอยู่ติดกันแต่สามารถขึ้นไปปฏิบัติธรรม ปักกลดธุดงค์ได้แต่ไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างใดใดได้โดยทางวัดและลูกศิษย์ลูกหาทุกคนก็ทราบเรื่องนี้ดีก็มีการพัฒนาเพียงในพื้นที่ของที่พักสงฆ์ที่สามารถทำได้เท่านั้นยืนยันความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

 

ขณะเดียวกัน หลักฐานต่างๆที่กล่าวหาครูบาไก่ที่ปรากฏอยู่ในโลกโซเชียลขนาดนี้มีการเปิดเผยออกมาเป็นจำนวนมากซึ่งบางภาพก็เป็นที่น่าสงสัยว่าจริงหรือไม่เพราะลักษณะไม่เหมือนกับครูบาไก่และมีคลิปนั่งซ้อนท้าย ลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายขับเจ็ตสกีให้ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายมาทางกล้องโดยเป็นคลิปความยาว 8 วินาที ซึ่งในเรื่องนี้นั้นได้มีการดำเนินการตามวินัยของสงฆ์ไปแล้วแต่เป็นเพียงเรื่องของโลกวัชชะหรือโลกติเตียนไม่ถึงขั้นต้องทำการลาสิกขาไป

 

อย่างไรก็ตามขั้นตอนต่างๆของทางคณะสงฆ์ขณะนี้ยังคงยุติชั่วคราวเนื่องจากยังต้องรอการสืบสวนสอบสวนทางด้านคดีความอาญาที่ทางครูบาไก่เข้าแจ้งความเอาผิดกับอิคคิวพร้อมพวกรวมสี่คน ซึ่งทางตำรวจได้ส่งหมายเรียกให้มาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 มกราคม 2566 นี้